บทที่ ๑๗ : แรก #ศักดินาอากาศ

ศักดินาอากาศ

#cut บทที่ ๑๗ แรก

มิ่งขวัญที่ร่างกายเปลือยเปล่าเม้มปากเป็นเส้นตรง อันมีสาเหตุมาจากความรุ่มร้อนในกายที่เริ่มทวีคูณเรื่อย ๆ มือเรียวเอื้อมไปเปิดก๊อกเพื่อเปิดฝักบัว สายน้ำเย็นไหลผ่านและไล้ไปตามผิวขาวผู้ดีของเขา กลิ่นทะเลของเมทที่อยู่นอกห้องราวกับเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้คนตัวขาวยิ่งทรมาน มิ่งขวัญกัดฟันกรอดจากนั้นจึงไล้มือลงไปยังต้นขาของตนที่มีน้ำเหนียวออกมาจำนวนมากปะปนไปกับสายน้ำจากฝักบัว มืออีกข้างพยายามยันกำแพงด้านหน้าเอาไว้แล้วครุ่นคิดว่าตนจะจัดการกับตนเองอย่างไร

ครืด.. เสียงเลื่อนประตูห้องน้ำดังขึ้น เพราะว่าเป็นวังที่ถูกสร้างมานาน จึงทำให้ประตูของอาคารอันเป็นเรือนหอชั่วคราวนั้นไม่สามารถลงกลอนได้ มิ่งขวัญหันไปตามต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ แต่แล้วก็ยิ่งต้องตกตะลึงมากกว่า เมื่อเห็นสามีของตนเข้ามายังในห้องน้ำโดยที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ใด ๆ

“พ.. พี่ภัทร” มิ่งขวัญพึมพำในลำคอ ดวงตาเย่อหยิ่งดูตื่นตระหนกไปเสี้ยววิ ก่อนที่สายตาจะเปลี่ยนเป็นหลุกหลิกเพราะทำตัวไม่ถูกนัก มันเป็นครั้งแรกของตนที่ได้เห็นร่างกายทั้งหมดของคนรัก ผิวใต้ร่มผ้าของคุณภัทรนั้นเป็นขาวอย่างลูกคนจีน ร่างกายกำยำที่ผ่านการฝึกหนักและใช้แรงเพราะอาชีพทหารยิ่งทำให้คนตัวขาวไม่กล้ามองตรง ๆ และไม่กล้าแม้แต่จะมองไปยังช่วงล่างด้วยซ้ำ คนตัวขาวจำต้องหันหน้าไปหากำแพงตามเดิม ในขณะที่คุณภัทรนั้นไม่ได้มีท่าทีอายสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังปรี่เข้ามาประชิดตนจากข้างหลังด้วยซ้ำ

“เอ่อ.. พี่อาบน้ำด้วยนะครับ” คุณภัทรยิ้มบางและกระซิบลงข้างหูคนรัก จากตอนแรกที่คนตัวขาวนั้นเปียกปอนอยู่คนเดียว ในตอนนี้ก็มีอีกคนเข้ามายืนใต้ฝักบัวด้วยกันเสียแล้ว มิ่งขวัญจึงกลั้นใจหันหน้าไปประจันหน้ากับคนรักด้วยใบหน้าแดงจัด แม้จะเสียงน้ำกระทบพื้นจะดังมากสักเท่าไรแต่เสียงหัวใจของคนทั้งสองนั้นดังโครมครามเสียยิ่งกว่า

“…” มิ่งขวัญเขินจัดจนไม่สามารถพูดออกมาได้เป็นภาษา ทำได้เพียงพยักหน้าให้กับอีกฝ่าย บิดตัวไปมาเนื่องจากร่างกายไม่รักดีนั้นกำลังตีรวนแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน แม้แก่นกายของคนตัวขาวจะยังไม่ได้แสดงออกถึงความต้องการ แต่ ณ ตอนนี้ตุ่มไตชมพูหวานบนหน้าอกกลับตั้งตระหง่านน่าอาย.. น่าอายจนมิ่งขวัญอยากจะขุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด

เป็นกาฬวิฬาร์นั้นไม่ง่ายเอาเสียเลย

“พี่อยากให้เราทำความรู้จักร่างกายกันก่อน ต่อไปจะได้ไม่เขินกันมากนัก” คุณภัทรหัวเราะเล็ก ๆ พลางหยิบสบู่ก้อนมาลูบไล้ที่ตัวของคนรัก มือหนาของนายทหารหนุ่มลูบไล้ไปทั่วร่างคนตัวขาว ตั้งแต่ต้นคอ หัวไหล่ ช่วงท้อง จวบจบต้นขา โดยที่มิ่งขวัญก็ยินยอมแต่โดยดี

“ฮึก..” มิ่งขวัญสะดุ้งโหยงทันที เมื่อมือของคุณภัทรนั้นลงไล้ไปยังบั้นท้ายของตน ไม่ช้านิ้วเรียวของคุณภัทรก็สัมผัสวนกับปากทางช่องแคบด้านหลังเบา ๆ มิ่งขวัญแข้งขาอ่อนจนต้องยกแขนทั้งสองขึ้นจับไหล่ของคนรักเอาไว้ ใบหน้าหวานเบ้ปากด้วยความไม่พอใจเล็ก ๆ เพราะเหมือนจะจับได้ว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังแกล้งตนเสียมากกว่า

“จนแต่งงานกันแล้วก็ยังดื้อไม่เปลี่ยน เหนอะหนะไปหมด” คุณภัทรหัวเราะขณะที่ลูบไปยังขาอ่อนด้านในที่เปียกไปด้วยน้ำหล่อลื่นที่ไหลลงมา แม้นายทหารหนุ่มจะตีหน้าซื่อแต่ใบหูเขากลับขึ้นสีจัดไม่ต่างกับภรรยา

“คำก็ดื้อ สองคำก็ดื้อ ตกลงพี่ภัทรรักมิ่งหรือไม่ล่ะครับ” มิ่งขวัญกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ผลข้างเคียงจากการฮีททำให้นึกพาลน้อยใจที่อีกฝ่ายไม่ยอมทำอะไร อีกทั้งยังตำหนิตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“รักครับ ดูซีงอนจนตาเขียวไปหมดแล้ว แต่ที่ประวิงเวลาไว้ก็เพราะกลัวมิ่งจะล้า..” คุณภัทรพึมพำ พลางจับมือของมิ่งขวัญมาวางบนแกนกายของเขาที่ตั้งตระหง่าน ใบหน้าหล่อที่เปียกปอนของชายหนุ่มนั้นอาจไม่ได้เปียกเพราะน้ำเพียงอย่างเดียว แต่คงจะเป็นเพราะเหงื่อจากการระงับอารมณ์ของคุณภัทรเช่นกัน

“…” มิ่งขวัญตาโต ไม่นึกว่าสามีจะจับมือของตนให้ไปสัมผัสส่วนนั้นของอีกฝ่าย มันแข็งราวหินแกร่ง เพื่อบ่งบอกว่าเจ้าของมันนั้นก็มีอารมณ์เฉกเช่นเดียวกัน คนตัวขาวลอบมองใบหน้าตัวเองในกระจกที่อยู่เลยร่างของสามีออกไป ตาของตนเปลี่ยนเป็นสีเขียวบ้างน้ำตาลเข้มบ้างเป็นระยะ ในขณะที่ใบหน้านั้นกลับเป็นสีแดงแจ๋ เรื่องหน้าอายเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และค่ำนี้ก็คงจะได้อายกันไปเสียหลาย ๆ ครั้ง

“แต่ตอนนี้พี่เปลี่ยนใจ มิ่งจะว่าอะไรพี่ไหมหากพี่–” คุณภัทรพูดไม่ทันขาดคำ มิ่งขวัญก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้นายทหารหนุ่มทันที คุณภัทรหลับตารับริมฝีปากของมิ่งขวัญ จากนั้นนายทหารหนุ่มจึงยกมือขึ้นเพื่อประคองใบหน้าของคนรัก ริมฝีปากของทั้งคู่บดเบียดกันเบา ๆ มันหวานหอมและนุ่มนิ่มเหมือนกับครั้งแรกที่ได้ลิ้มลองขนมปุยฝ้ายไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเคยจูบกันอีกสักกี่ครั้ง ความรู้สึกนี้มันก็ยังคงมีอยู่เสมอสำหรับคนตรงหน้า

“มิ่งอนุญาตครับ” มิ่งขวัญพึมพำหลังจากที่ผละจูบจากอีกฝ่าย เมื่อได้ยินเช่นนั้นคุณภัทรก็ก้มลงจูบคนเตี้ยกว่าอีกครั้ง ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่เสียดสีกันไม่ต่างจากริมฝีปาก แรงกระตุ้นทำให้ยอดอกของคนตัวขาวรู้สึกเสียวซ่านจากเมื่อโดนผิวของคนรัก และน้ำจากฝักบัวไม่ได้เป็นอุปสรรคเลยสักนิด กลับกลายเป็นว่าสภาพที่เปียกโชกของทั้งสองฝ่ายนั้นกำลังยั่วยวนกันไปมา ทั้งรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลและกลิ่นกายหอมที่มีเพียงคุณภัทรและมิ่งขวัญที่รู้

“ไปที่เตียงกันนะครับ” คุณภัทรกดจูบลงที่ต้นคอของมิ่งขวัญ จากนั้นก็ยกภรรยาด้วยท่าเจ้าสาวโดยไม่ได้รีรอ คนตัวขาวยกมือขึ้นคล้องคอสามีเป็นระวิงเพราะกลัวตก แต่สุดท้ายก็ยอมแนบหน้าซบลงไปที่ต้นคอกลิ่นทะเลของคุณภัทรเสียโดยดี

มิ่งขวัญในตอนนี้พร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อมที่จะมีคุณภัทรเป็นคนแรก

 

*****

คุณภัทรค่อย ๆ วางมิ่งขวัญลง โดยที่ให้มิ่งขวัญนั่งเอนหลังพิงหัวเตียง จากนั้นนายทหารหนุ่มก็ทิ้งตัวลงคร่อมอีกฝ่ายบนเตียง ไรผมที่เปียกชื้นและร่างกายขาวนั้นยิ่งทำให้สมองของชายหนุ่มขาวโพลนไปหมด ก่อนหน้านั้นเขาไม่นึกว่าตนนั้นจะมีวาสนาที่จะได้แตะต้องคนตรงหน้าเสียด้วยซ้ำ เขาค่อย ๆ ไล้มือลงบนร่างกายที่เปียกปอนของคนรักเพื่อไล่น้ำออกไป

“อ๊ะ..” ร่างกายและริมฝีปากของมิ่งขวัญนั้นสั่นระริกจากการสัมผัสของชายหนุ่ม ดวงตาสีเขียวเย่อหยิ่งของมิ่งขวัญในตอนนี้งามราวกับตาของแมวฝรั่งก็ไม่ปาน คุณภัทรเปลี่ยนจากไล่น้ำด้วยมือเป็นการก้มตัวเลียน้ำบนตัวของคนรัก เขาตวัดลิ้นร้อนที่ซอกคอขาวของมิ่งขวัญหลายต่อหลายครั้ง แล้วจึงไล่ลงมาที่ยอดอกสีหวานที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า นายทหารหนุ่มโลมเล้าตรงตุ่มไตเสียจนได้ยินเสียงครางหวาน ๆ ของมิ่งขวัญดังเล็ดลอดออกมา เมื่อเงยหน้ามองเขาจึงเห็นว่าขาทั้งสองข้างของคนรักนั้นแยกออกเพื่อเปิดทางให้เขาเต็มที่

“ถ้าเจ็บบอกพี่นะครับ” คุณภัทรยกยิ้มได้ใจเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ โน้มตัวจูบเจ้าของปากสีกุหลาบอีกครั้ง ในขณะที่มือของเขานั้นลูบวนยังช่องทางหวานด้านล่างเพื่อช่วยบรรเทาอาการ ในระหว่างที่คนรักกำลังให้ความสนใจกับการจูบ ชายหนุ่มก็ค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปยังพื้นที่ต้องห้าม มิ่งขวัญยกบั้นท้ายขึ้นสะดุ้งเล็ก ๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ให้สนใจมากนัก จนกระทั่งคุณภัทรนั้นสอดนิ้วที่สองเข้าไป ทำให้เจ้าของใบหน้าหวานถึงกับทำหน้าเหยเก แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายช่วงล่างกับพยายามบดเบียดกับปลายนิ้วของคุณภัทร ด้วยความปรารถนาที่ต้องการจะถูกเติมเต็ม

“อือ.. พี่ภัทร..” มิ่งขวัญครางเบา ๆ แล้วจึงไล้มือลงไปจับส่วนหัวของแกนกายขนาดพอดีมือของตนเอง มือเรียวรูดมันขึ้นลงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ในขณะที่คนรักกำลังใช้นิ้วไปสำรวจด้านหลัง คุณภัทรเมื่อเห็นดังนั้นจึงจับมือของภรรยาออกจากแท่งเร้าอารมณ์ทันที แม้ว่ามันจะดูเย้ายวนเสียเขาอยากจะลงโทษอีกฝ่ายแต่ก็ต้องกลั้นใจเอาไว้ เพราะเขาคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเขามากกว่าที่จะเติมเต็มคนรัก

“หันหลังให้พี่หน่อยซีครับ” คุณภัทรกระซิบข้างหู และมิ่งขวัญก็นอนคว่ำไปกับที่นอนอย่างว่าง่าย นายทหารหนุ่มใช้มือทั้งสองข้างนวดคลึงไปที่บั้นท้ายกลมของคนรัก จากนั้นก็ใช้แรงจับให้มิ่งขวัญชันเข่าขึ้นเพื่อที่จะกระดกด้นให้ได้มุมที่พอเหมาะ เขาไม่แน่ใจนักว่าเขาจะเข้าไปเชยชมภายในของมิ่งขวัญได้ รอยแดงตรงช่องทางหวานยิ่งทำให้คุณภัทรนั้นกลัวว่าอีกฝ่ายจะฉีกขาดเสียก่อน คุณภัทรสอดนิ้วเข้าไปอีกครั้ง จากในทีแรกที่ได้เพียงสองนิ้ว ชายหนุ่มก็เริ่มเพิ่มเป็นสาม เขาตวัดนิ้วเรียวไปมาภายในพื้นที่พิเศษ

“อ๊ะ!” คนใต้ร่างร้องเสียงหลง เหมือนเป็นการบอกว่าคุณภัทรนั้นได้ไปสัมผัสโดนจุดกระสันเข้าให้ ชายหนุ่มเน้นไปยังจุดนั้นอีกครั้ง จนมิ่งขวัญเริ่มครางระงม คุณภัทรโน้มตัวลงไปเพื่อกอดปลอบคนรักทันที เขาถอนนิ้วออกแล้วจับให้มิ่งขวัญขึ้นมานั่งคร่อมตัวเขา หน้าของภรรยานั้นขึ้นสีแดงจัดจนคล้ายจะเป็นลม ริมฝีปากเจ่อของมิ่งขวัญตอนนี้กลับดูเร้าอารมณ์ในตัวเขาเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

“อืม..” คุณภัทรกัดฟันกรอดทันที เมื่อมิ่งขวัญขยับตัวขึ้นเหนือแก่นกายของเขาโดยที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไร เหมือนกับภรรยาของเขาเองก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน และด้วยความที่อีกฝ่ายนั้นคือมิ่งขวัญผู้ใจเด็ด จึงทำให้อีกฝ่ายที่เปลี่ยนมาอยู่บนนั้นจัดการปรนเปรอตนเอง ชายหนุ่มเหม่อมองใบหน้าหวานที่เจ็บระคนสุขด้วยความหลงใหล ภายในของมิ่งขวัญมันยิ่งทำให้เขารู้สึกดีราวกับล่องลอยในความฝัน มันปลุกเร้าและตอดรัดเสียจนเขาอยากปลดปล่อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า นายทหารหนุ่มค่อยจับบั้นท้ายกลมของคนรักขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบ ๆ ให้คล้ายกับว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังขี่ม้าอยู่จะได้คุ้นชินและไม่เจ็บนัก

“…”  เจ้าของใบหน้าหวานก้มมองเขาด้วยน้ำตานองหน้าแล้วส่งยิ้มให้กับเขา เพียงแค่มองตาก็พอจะรู้ว่าต่างฝ่ายต่างอยู่ในห้วงแห่งความสุขและยินดี คุณภัทรยกแขนขึ้นโอบตัวของมิ่งขวัญเพื่อกอดอีกฝ่ายเอาไว้ เขาหอมดอมดมกลิ่นดอกพุดซ้อนเสียจนพอใจ จากนั้นจึงจูบไล่น้ำตาที่แก้มของภรรยา

“ไม่เจ็บใช่ไหม” คุณภัทรถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เขาไม่ได้กระแทกกระทั้นสะโพกแต่ปล่อยให้อีกฝ่ายโยกตัวไปตามใจตนเอง เพื่อที่จะได้ปรับตัวกับแก่นกายของเขาได้

“ม.. ไม่เจ็บ” มิ่งขวัญตอบกลับทั้งที่ใบหน้าแดงจัดเปลี่ยนเป็นซีดเซียว ในตอนนี้ทั้งสองไม่ได้เขินอายร่างกายที่เปลือยเปล่าของกันและกันอีกต่อไป แต่กลับขวยเขินกับสิ่งท่าทางของกันและกันเสียมากกว่า ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันแล้วหัวเราะทั้งน้ำตา คุณภัทรเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองนั้นก็พลอยน้ำตาไหลตามภรรยาไปด้วย จนกระทั่งมิ่งขวัญยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาให้

“คนเก่งของพี่” คุณภัทรยกมือขึ้นจับใบหน้าหวานของคนรักจากนั้นเขาก็พลิกตัวให้มิ่งขวัญไปนอนอยู่ด้านล่างแทน แม้ว่าร่างกายของเขาและคนรักนั้นยังเชื่อมกันอยู่ก็ตามที ทั้งสองนิ่งเงียบมองตากันและกันไปครู่หนึ่ง ก่อนที่คุณภัทรจะก้มลงจูบที่ต้นคอของมิ่งขวัญอีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่ได้เพียงแค่จูบธรรมดา แต่กลับใช้ปากดูดคลึงผิวขาวของคนรักจนเกิดรอยแดง ขณะเดียวกันเขาก็โยกสะโพกสวนกับคนใต้ร่างเรื่อย ๆ แต่พยายามให้รุนแรงน้อยที่สุด เมื่อชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงมือเรียวของคนรักที่ค่อย ๆ ลูบศีรษะของเขาขณะจุมพิตที่ต้นคอ เขาจึงหยุดแล้วจ้องไปที่ใบหน้าของคู่ชีวิตตนเอง

“ข.. ขอบคุณนะที่รักมิ่ง” คนตัวขาวยิ้มบางแล้วกล่าวกับสามี

“ชีวิตพี่เป็นของมิ่งตั้งแต่วันที่เราเจอกันแล้วรู้ไหม” คุณภัทรโน้มตัวลงหอมแก้มคนรักฟอดใหญ่ เขากัดฟันเล็ก ๆ เพราะปวดหนึบกับส่วนอ่อนไหวด้านล่างที่ตอนนี้พร้อมสำหรับปลดปล่อยเต็มที

“มิ่งเองก็เช่นกัน เป็นของพี่ภัทรตั้งแต่วันนั้น..” น้ำตาของผู้เป็นภรรยาไหลเป็นสาย พลันทำให้ชายหนุ่มนึกภาพในวัยเด็กขึ้นมา เด็กน้อยคนที่จูงมือเขาไปนั่งเล่นในสวน ณ ตอนนี้ก็กลายมาเป็นภรรยาที่เขารักสุดหัวใจ

“เป็นของพี่ตลอดไปนะมิ่ง” คุณภัทรยิ้มเผยให้เห็นเขี้ยวแหลมตามสัญชาตญาณของอันฬาผู้พร้อมจะตีตรากาฬวิฬาร์ ดวงตาของเขาเป็นสีฟ้าน้ำทะเลอีกครั้ง

“ตลอดไปครับมิ่งขวัญยิ้มรับแล้วยกมือขึ้นคล้องคอคุณภัทรให้โน้มลงมาที่ต้นคอของตน คุณภัทรกัดลงไปที่ต้นคอซ้ายของคนรักอย่างจมเขี้ยว เมื่อเขารู้สึกได้ถึงคาวเลือดในปากเขาจึงรีบถอนออกด้วยความกังวลใจ ในขณะเดียวกับแก่นกายของเขาก็ขยายใหญ่และเริ่มการน็อทในตัวของคนรัก จนทำให้มิ่งขวัญครางระงมด้วยความเจ็บระคนสุข และด้วยเหตุนี้จึงทำให้มวลกลีบดอกไม้บนเตียงกระจายไปทั่ว ไม่นานคนตัวขาวก็ปลดปล่อยออกมาจนเปรอะเปื้อนร่างกายของทั้งคู่

“ไม่เป็นไรนะครับ พี่อยู่นี่”  คุณภัทรพลิกตัวให้คนรักขึ้นมานอนบนตัวของเขาอีกครั้ง มิ่งขวัญจึงกอดคุณภัทรเอาไว้แน่นขณะถูกน็อท ชายหนุ่มพยายามปลอบอีกฝ่ายด้วยการลูบศีรษะพลางกดจูบ เขามองไปที่รอยตีตราที่เขาเพิ่งสรรค์สร้างอย่างโล่งใจ เพราะบริเวณนั้นเขาเคยศึกษามาว่าจะเจ็บน้อยที่สุด และมันก็ไม่ได้เหวอะหวะมากจนน่ากลัว แต่อีกสิ่งที่คุณภัทรรู้สึกได้ชัดที่สุดนั่นก็คือ ณ ขณะนี้กลิ่นของเขาและมิ่งขวัญนั้นได้หลอมรวมกันแล้ว เหมือนดังคำบอกเล่าจากลูกพี่ลูกน้องของตน

กลิ่นทะเลที่หลอมรวมกับกลิ่นพุดซ้อน

“…” มิ่งขวัญไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ผงกศีรษะเล็ก ๆ แล้วจึงแนบหน้าลงที่หน้าอกของคุณภัทร ดวงตาเริ่มแสดงถึงความเหนื่อยล้า และต้องการที่จะพักผ่อน คุณภัทรเองที่เพิ่งเคยหลับนอนและน็อทครั้งแรกก็อดที่จะเขินกับตนเองไม่ได้ที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีกว่าที่คิด เว้นเสียแต่ว่าตัวเขานั้นดูท่าจะน็อทนานไปหน่อย หากเป็นเช่นนี้เขาเองก็อดคิดไม่ได้ว่าภรรยาคงมีบุตรสมใจในเร็ววัน

“มิ่งอยากมีลูกกี่คนกันหรือครับ”  คุณภัทรกระซิบถามมิ่งขวัญ ใช่ว่าเขาจะไม่ได้สังเกตว่าอีกฝ่ายนั้นดูจะตื่นเต้นและใคร่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ เพราะก่อนจะถึงวันแต่งงาน คนตัวขาวเอาแต่พูดถึงเรื่องเพื่อนของตนเองที่กำลังตั้งครรภ์

“สองคนล่ะมังครับ” มิ่งขวัญตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน

“เช่นนั้นพี่ต้องขยันแล้วซี” คุณภัทรพูดติดตลก

“พี่ภัทรเป็นคนเช่นนี้ซีนะครับ” มิ่งขวัญถึงกับเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าขึ้นสี คงพอจะเข้าใจว่าขยันที่ว่าไม่ได้หมายความว่าทำมาหากินแต่เป็นขยันอย่างอื่น คนตัวขาวทุบอกสามีเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ต้องถูกลงโทษด้วยการถูกหอมฟอดใหญ่

เมื่อรู้สึกได้ว่าการน็อทจบลงแล้ว คุณภัทรจึงนำแกนกายของตนออกจากช่องทางของคนรักเสีย ชายหนุ่มตั้งใจจะลุกขึ้นไปหาผ้ามาทำความสะอาดตัวให้คนรัก แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายผล็อยหลับบนตัวเขาไปแล้ว คุณภัทรจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของวันพรุ่งแทน

“ฝันดีนะครับ แม่ของลูกพี่” คุณภัทรพูดยิ้ม ๆ แล้วจึงเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มมาห่มตัวเขาและภรรยาเอาไว้ คุณภัทรกอดมิ่งขวัญเอาไว้ราวกับว่าจะไม่มีวันคลาย ให้เหมือนกับคำว่าตลอดไปที่ได้สัญญากันเอาไว้

เป็นกระต่ายที่เป็นเจ้าของดวงจันทร์

เป็นท้องทะเลที่โอบกอดดอกไม้งามเอาไว้

เป็นภัทรดนัยที่รักมิ่งขวัญตลอดไป

*****

ต่อที่ Dek-D

ตอนที่ 16 : เสียดายของ #แอคชั่นวันเทค

แอคชั่นวันเทค

ตอนที่ 16 : เสียดายของ

(เนื้อเรื่องตอนนี้เกิดก่อนที่ 15 นะคะ)

แอล’s POV

หลังจากที่ผมลงตารางงานและวางคิวของแดนนี่เรียบร้อย ผมก็ชั่งใจอยู่นานว่าจะเข้าไปในห้องแดนนี่ดีหรือเปล่า ก็นะ.. เข้าไปทีไร เปลืองตัวทุกที ไม่สิ เกือบเสียตัวทุกทีต่างหาก ผมยังคงเป็น แอล อมรกานต์ คนเดิม เพิ่มเติมในตอนนี้กำลังอยู่ในสถานะคนคุยกับ แดนนี่ เหนือเทพ ซุปเปอร์สตาร์วงการภาพยนตร์ไทย ไอ้สถานะดังกล่าวนั้นถ้าให้เท้าความกันไปก็ยังงง ๆ อยู่ ที่ผมพอเข้าใจก็คือในคืนที่ผมเมาวันก่อน เหมือนว่าผมจะไปทำอะไรไม่ดีเข้า และนั่นแหละครับตามประสาลูกผู้ชาย ไอ้เราก็ควรจะรับผิดชอบซะหน่อย เลยไปขอเป็นคนคุยกับเจ้านายตัวเอง และแน่นอนว่าแดนนี่เองก็โอเค

ผมรู้ว่าแดนนี่นั้นชอบผม แต่ผมไม่แน่ใจนักว่าเพราะอะไรกันแน่ ทั้งที่ผมเองก็เป็นผู้ชายทั้งแท่ง กับแฟนเก่าที่เลิกรากันไปก็เรียกได้ว่าเกือบจะแต่งงานกันด้วยซ้ำ มันอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมก็ได้ แต่มันคงเป็นที่แดนนี่มากกว่า ตั้งแต่ได้เริ่มเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง มันก็เหมือนเปิดโลกมากขึ้น ในสมัยก่อนที่เรียนหรือทำบริษัททัวร์ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเจอพวก เกย์ กะเทย ทอม เลสเบี้ยน สักหน่อย ผมคิดว่าผมเองก็เปิดกว้างด้วยซ้ำ แต่พอมาทำในวงการก็เลยรู้อะไรที่มันซับซ้อนกว่านั้น เช่น แพท เพทาย ดาราดาวรุ่งชื่อดังนั้นได้ทั้งหญิงและชาย ไอ้เรื่องที่ผมสรุปเอาเองว่าแดนนี่ชอบผมตรงไหนนั้น ทีแรกผมคิดว่าเพราะผมหล่อ.. ซึ่งผมก็คิดว่าผมหล่อจริง ๆ นะ เลยทำให้แดนนี่อยากได้เป็นผัว

แต่เพราะคำเตือนจากเพื่อนสนิท กับท่าทีแปลก ๆ ของคนรอบตัว มันก็ทำให้ผมเริ่มสับสน คนพวกนั้นกลับบอกว่าผมน่ะไม่ใช่ผัวหรอกถ้าหากมีอะไรกับแดนนี่ น่าจะไปเป็นเมียเขามากกว่า ยอมรับในตอนแรกก็ตกใจนะครับ ลองคิดดูสิหน้าอย่างผมน่ะมันจะไปเป็นเมียใครได้ ตั้งแต่นั้นมาผมก็ถามตัวเองในใจตลอดเวลาส่องกระจก ว่าไอ้ใบหน้าที่ผมเห็นมาตลอดยี่สิบหกปีนี่มันไปทำให้คนอยากจับทำเมียเหรอวะ

 

ไม่ใช่อะไรหรอก ก็ไอ้คราวจะเสียตัวครั้งล่าสุดก็เพราะดันไปเจอแฟนเก่ากับเมียใหม่เขา (แฟนเก่าผมเป็นผู้หญิง แต่เลิกกับผมไปคบกับผู้หญิงอีกที) ก็เลยเล่นนั่นเล่นนี่กับแดนนี่มากไปหน่อย ทั้งความสงสัยและความอยากประชดแฟนเก่าด้วยมั้ง มันทำให้ในวินาทีนั้นผมรู้ทันทีว่าผมสู้แรงแดนนี่ไม่ได้แน่นอน (ขนาดตัวก็แพ้แล้วแต่ผมไม่ยอมรับความจริง) จริง ๆ จากจูบหลาย ๆ ครั้งที่เคยจูบกันก็พอรู้เหมือนกันว่าผมอ่ะจูบสู้แดนนี่ไม่ได้ แถมยังเคลิ้มง่ายด้วย

แดนนี่น่ะจูบโคตรเก่ง

 

แต่เรื่องคืนนั้นก็จบด้วยการที่ผมมันป๊อดร้องไห้ใส่ไปก่อน เพราะรู้ตัวว่ากำลังจะเสียเอกราช และรู้อยู่แก่ใจนั่นล่ะว่าไม่ได้อยากทำกับแดนนี่จริง ๆ แดนนี่เองก็เลยหงุดหงิดและหยุดไป ซึ่งมันก็เข้าใจได้นะ เป็นผมเองผมก็คงหงุดหงิดเหมือนกัน อุตส่าห์เดินเกมไปขนาดนั้นแล้ว แต่ลึก ๆ ผมกลับรู้สึกดีนิด ๆ ที่แดนนี่ไม่ทำอะไรผมคืนนั้น

จริง ๆ ก็ไม่อยากบอกเลยว่าประทับใจ

 

กลับมาที่เรื่องต้องเข้าไปในห้องของแดนนี่กันต่อ งานของผมคืนนี้ก็คือจะต้องสอนดาราที่ดูแลอยู่เล่นโซเชียลอ่ะครับ เพราะแดนนี่นั้นค่อนข้างช้ามากในการใช้เทคโนโลยี เคยถามไปเหมือนกันว่าทำไมเล่นไอจีไม่คล่องแต่เล่นไลน์คล่อง คำตอบที่ผมได้รับก็คือแดนนี่ตอบว่ามันเหมือนกับเล่นเอ็มเอสเอ็น บางทีผมก็สงสัยว่าจริง ๆ แล้วแดนนี่อายุสามสิบสามหรือสี่สิบสามกันแน่

ก็นั่นล่ะครับ งานก็เป็นงาน ยังไงซะผมก็อิดออดได้ไม่นานหรอก คงต้องเข้าไปที่ห้องนอนของแดนนี่อยู่ดี ผมพับแล็บท็อปแล้ววางไว้บนโต๊ะกาแฟ จากนั้นก็ถือมือถือลุกขึ้นแล้วไปหยุดที่หน้าประตูห้องของแดนนี่ทันที

 

ก๊อก.. ก๊อก..

 

“เข้ามาได้” เสียงทุ้มต่ำของแดนนี่ดังออกมาจากด้านหลังของบานประตูไม้ ผมเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วหมุนมัน ก่อนที่จะโผล่หัวเข้าไปมองว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่

“ผมมาสอนคุณใช้ไอจี” ผมไล่สายตาไปทั่วห้องแล้วกล่าว เมื่อเห็นว่าแดนนี่กำลังง่วนเล่นมือถืออยู่จึงเดินเข้าไปด้านใน

“หนูมาพอดีเลย ป๋ากำลังงง ๆ ว่ามันใช้ยังไง” แดนนี่หันมายิ้มร่าให้กับผม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ผมชอบบ่นในใจว่ามันคือรอยยิ้มแด๊ะแด๋ เพราะมันดูค่อนข้างน่าหมั่นไส้มาก ๆ เวลามอง

“คุณ.. กดอัพอะไรแผลง ๆ ไปหรือยังเนี่ย” ผมบ่นพึมพำเมื่อเห็นว่ามือถือของแดนนี่เปิดกล้องหน้าเอาไว้อยู่ ทำงานกับพวกดารานั้นมันต้องระวังเรื่องการใช้โซเชียลอยู่แล้ว แต่พอต้องมาทำงานกับดาราที่ใช้โซเชียลและเทคโนโลยีไม่เป็นอย่างแดนนี่ มันจึงต้องระวังสองเท่า

“ยังจ้ะ เพิ่งเปิด” แดนนี่ยิ้มแล้วเกาหัวแกรก ๆ ท่าทางเหมือนลุงวัยสี่สิบทำผมหน่ายใจ

“ถ้าจะเข้าสตอรี่ต้องเข้าตรงมุมนะคุณ ไอ้กลม ๆ ตรงนี้ก็คือสตอรี่ของคนที่คุณฟอล.. ทำไมคุณถึงฟอลแต่พวกหมาแมวกับคิตตี้อ่ะ..” ผมว่าพลางจับมือของแดนนี่ที่ถือมือถือเข้ามาดูใกล้ ๆ ไม่แปลกใจนักว่าทำไมอีกฝ่ายถึงฟอลโล่ว์อะไรแปลก ๆ แต่ก็ยังดีที่มันฟอลคิตตี้ไม่ใช่แอครูปโป๊

“คิตตี้ไม่น่ารักเหรอหนู ป๋าว่าน่ารักจะตาย” แดนนี่หันมาถามหน้าซื่อ (ใจคด) ผมไม่คิดว่าแดนนี่ฟอลคิตตี้เพราะน่ารักหรอก น่าจะเพราะพื้นฐานเป็นคนกวนตีนมากกว่า

“ถ้าคุณจะอัพรูปให้กดตรงนี้ครับ พวกสตอรี่ถ้าอัพแล้วครบหนึ่งวันมันก็จะหายไป ผมพูดก็จำด้วยนะ ว่าแต่คุณจะอัพสตอรี่เป็นรูปอะไรอ่ะ” ผมหันไปถาม เมื่อเห็นว่าหน้าของแดนนี่เข้ามาสองมือถือใกล้ ๆ ผมจึงย่นคอหนีน้อย ๆ

“อัพรูปกับจิมมี่อ่ะ รูปขี่หลัง” แดนนี่พูดแล้วเปิดสมุดภาพเล่มหนาให้ผมดู

“พ.. ฮ่า ๆๆๆ เฮ้ย เอาจริงดิ” หน้าที่เปิดไว้ทำผมหัวเราะลั่น เพราะมันเป็นภาพของจิมมี่น้องชายแดนนี่ถูกพี่ชายขี่หลังอยู่

“อย่างป๋าอ่ะพูดจริง! เอาจริง!” แดนนี่โวยวายแล้วก็ยื่นสมุดมาให้ผมถ่าย ถึงแม้ว่าประโยคมันจะสองแง่สามง่าม ผมก็ทำหูทวนลมไม่รับรู้มันไปซะ

“เสร็จละ ทีนี้เราก็จะอีดิทใส่แคปชั่นได้ในรูป คุณจะพิมพ์อะไรดีอ่ะ” ผมถ่ายภาพแดนนี่ขี่หลังจิมมี่ลง แล้วจึงหันไปถามอีกฝ่ายว่าจะใส่แคปชั่นอะไร

“แคปชั่นเหรอ งั้นป๋าพิมพ์เองละกัน” แดนนี่พึมพำก่อนที่จะแย่งมือถือไปจากมือผม ด้วยความอยากรู้ว่าพี่น้องซุปเปอร์สตาร์เขาจะอัพภาพถึงกันยังไง ผมจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ลืมตัวไปเลยว่ามันใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของแดนนี่

ผมหัวเราะอีกรอบเมื่อเห็นว่าแดนนี่ใส่แคปชั่นเป็นเนื้อเพลงพี่ชายที่แสนดีลงไป ทั้งที่ในภาพคือพี่ชายตัวเท่าควายกำลังขี่หลังน้องชายอยู่ นึกนับถือใจเพราะมันดูเป็นมุขตลกที่ดูเหลือร้าย และในทางกลับกันไม่ว่าใครที่เปิดดูสตอรี่ไอจีของเขาคงจะยิ้มออกมาได้ ถ้าไม่นับเรื่องตลกและบ้ากาม คน ๆ คนนี้ก็เป็นคนดีมาก ๆ เลย

“ตรงนี้กดอัพใช่ปะหนู” ซุปตาร์ตัวเท่าหมีหันมาถามผม ผมที่ก้มหัวมองมือถืออยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองแดนนี่แล้วพยักหน้าหงึกหงักไปสองที แต่พอแดนนี่กดอัพภาพปุ๊บ ผมจึงรู้ตัวทันทีว่า

ไอ้ที่ชมว่าเป็นคนดีเมื่อกี๊กูขอถอนคำพูด!

 

เพราะหลังจากที่กดอัพสตอรี่แล้วแดนนี่กลับโยนมือถือลงบนเตียง แล้วจับผมนอนราบไปกับเตียงแทน สภาพของผมตอนนี้มันนอนแอ้งแม้งไม่ต่างกับมือถือเลยแม้แต่น้อย ไม่ทันที่จะได้ด่าหรือถามอะไรแดนนี่ก็คร่อมตัวลงมาบนตัวผมที่นอนอยู่ทันที

“เบื่อเล่นไอจีแล้วอะ มาเล่นอย่างอื่นดีมั้ย” รอยยิ้มแด๊ะแด๋เมื่อกี๊แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มร้ายอย่างน่ากลัว ร่างหนัก ๆ ของแดนนี่กดทับมาบนตัวผม ช่วงล่างก็เช่นกัน

“คราวนี้เล่นอะไรอีก เล่นเลียปากกันรึไง” ผมถอนหายใจใส่ ถ้าแดนนี่คิดว่าผมจะตกใจแล้วกรีดร้องเหมือนนางเอกละครก็คิดผิดแล้วล่ะ ในเมื่อจูบกันมาตั้งหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ถ้าเล่นจูบกันอีกผมคงไม่ได้ตกใจอะไร

“อะไรกัน เบื่อป๋าแล้วดิพูดงี้” แดนนี่หัวเราะในลำคอ แล้วจึงกดจูบที่แก้มผมไปหนึ่งที ไม่รู้ผมไปทำอะไรให้อีก แต่พูดก็พูดถ้าเป็นผู้ชายทั่วไปคงวางมวยต่อยไปแล้ว แต่นี่เป็นผมที่กำลังรู้สึกสับสนทางเพศอย่างหนัก มันเลยอาจทำให้ผมนั้นไม่ได้รังเกียจอะไร

“อืม เบื่อ เล่นเป็นหมาหยอกไก่อยู่ได้” ผมยิ้มร้ายคืนไปบ้าง แล้วผลักแดนนี่ให้ลุกออกจากตัวผม แดนนี่เลิกคิ้วสูงทันที แล้วจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนมองมาที่ผมที่ลุกมานั่งอยู่บนเตียง เพราะคงเดาไม่ถูกว่าผมจะทำอะไรกันแน่

แน่ล่ะ ผมจะสอนให้ดูว่าผู้ชายเขาทำกันยังไง

 

ผมลุกขึ้นยืนแล้วกระชากคอเสื้อแดนนี่ให้เข้ามาใกล้ ส่วนสูงที่มากกว่าของอีกฝ่ายทำให้ผมต้องเขย่งเล็ก ๆ เพื่อที่จะได้จูบถนัด ริมฝีปากของผมสัมผัสเข้ากับริมฝีปากหนาของแดนนี่ทันที แดนนี่เองก็รู้งานใช่ย่อย เขายกมือขึ้นประคองใบหน้าของผมเอาไว้ ผมปล่อยให้อารมณ์นำพาแล้วสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของแดนนี่ กวาดลิ้นไปทั่วทั้งช่วงฟัน ริมฝีปากนิ่ม ลิ้นอุ่น และมุมปาก จนรู้สึกได้ถึงน้ำลายของเราทั้งสองที่ผสมปนเปกันไปเสียหมด ไม่รู้ว่าผมจูบกันแดนนี่นานแค่ไหน กว่าได้สติก็เมื่อรู้สึกได้ถึงของเหลวที่มุมปากของตัวเอง ผมแอบลืมตาแล้วมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายว่าจะมีท่าทีอะไรบ้างไหม รู้สึกเคลิ้มบ้างหรือเปล่า เพราะมีแค่ผมที่เป็นฝ่ายจูบไปก่อน แต่แดนนี่นั้นยังคงยืนนิ่ง

“หนูรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังทำอะไร” ภาพที่เห็นเป็นแดนนี่ที่เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก และหน้าแดงจัดไม่ต่างกัน ผมแอบไชโยในใจที่ดูท่าว่าจูบของผมจะทำให้อีกฝ่ายเคลิ้มได้เหมือนกัน

“รู้ดิ ผมจีบคุณไง นี่กำลังลวนลามด้วย” ผมตอบหน้าซื่อ แล้วยกมือขึ้นขยี้ตา เพราะจูบเมื่อกี๊ผมต้องใช้ความพยายามมาก จนน้ำหูน้ำตาจะไหลไม่รู้ทำไม

“เสี้ยนอ่ะดิ ไหนจะทำอะไร” แดนนี่หัวเราะในลำคอ สายตาคมของมันมองต่ำมายังกางเกงขาสั้นที่ผมสวมใส่ ผมเองก็ยอมรับว่าตรงกลางมันก็นูนขึ้นมาแล้วล่ะ อยากจะร้องไห้เพราะไอ้ความชายชาตรีของผมมันโดนปลุกง่ายเหลือเกิน

“ถ.. ถอดเสื้อ แล้วลงไปนอนบนเตียง” ผมออกคำสั่งทำหน้าเบ้ใส่แดนนี่ ถึงรู้ว่าเปอร์เซ็นต์จะได้เป็นผัวของผมนั้นน้อยนิด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี มันเหมือนเล่นฟุตบอลที่ถูกนำก่อนสองศูนย์ แต่ตราบเท่าที่กรรมการยังไม่เป่านกหวีด เราก็ยังไม่ได้ผลแพ้ชนะ ดังนั้นแน่นอนว่าผมเองก็หวังเหมือนกัน

ผมหลบตาแดนนี่ทันที เพราะหลังจากที่ผมบอกให้อีกฝ่ายถอดเสื้อ แดนนี่ก็ยิ้มแล้วแล้วถอดเสื้อยืดออกอย่างว่าง่าย ก่อนที่แดนนี่จะทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง ยังมีการโยนเสื้อทิ้งไว้ข้างเตียงอย่างไม่สนห่าอะไรอีก รอยยิ้มของมันที่ส่งมาเหมือนกับว่าท้าทายผมอยู่ ไอ้ผมที่ยืนอยู่ปลายเตียงเลยทำเป็นใจดีสู้เสือหันไปมองภาพตรงหน้าเต็มตา รูปร่างที่สมส่วน ผิวที่ขาวหมดจด และมัดกล้ามแน่น ๆ ของแดนนี่มันทำให้ผมเกิดอิจฉาขึ้นมาตงิด ๆ ว่าแล้วผมก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองไล่ลงมาจนเม็ดล่าสุดอย่างรีบร้อน ยอมรับว่าตอนนี้บรรยากาศช่วงล่างค่อนข้างอึดอัดพอควร

ผมปลดกระดุมจนหมดแต่ยังคงสวมเสื้อเชิ้ตทับเอาไว้เพราะรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเองขึ้นมาซะงั้น แล้วค่อย ๆ ทาบตัวลงไปนอนทับกับแดนนี่ที่นอนยิ้มมองอยู่ ผมมองไปยังยอดอกสีเข้มที่เด่นอยู่บนอกของแดนนี่ แล้วเริ่มโลมเลียเบา ๆ ที่เคยดูในหนังเหมือนว่าเวลาผู้ชายมีอะไรกัน ตรงนี้ดูเหมือนจะปลุกเสียวให้ได้ง่าย แต่ผมไม่รู้หรอก เพราะทำตามหนัง (ที่ดูไม่จบ) มืออีกข้างก็นวดคลึงยอดอกของแดนนี่เบา ๆ มันนิ่มจนผมแอบรู้สึกเหมือนกันว่าคล้ายกับของผู้หญิงยังไงยังงั้น

“อ.. แอล อ่า.. เปียกไปหมดแล้ว” เสียงกระเส่าของแดนนี่ทำผมที่เลียนั่นนี่อยู่ถึงกับตัวแข็ง (ข้างล่างก็แข็ง) ผมไม่แน่ใจว่าที่ครางออกมาเพราะมันรู้สึกเสียวหรืออะไรกันแน่

“…” ผมทำเป็นไม่สนใจแล้วก้มหน้าเลียยอดอกของแดนนี่ต่อ คิดในใจ เอาวะ มันต้องเคลิ้มแล้วล่ะ ถ้าเคลิ้มแล้วหลับหูหลับตาสอดเข้าไปคงไม่เป็นไรมั้ง

“เปลี่ยนไปเลียข้างล่างได้มั้ยแอล” เสียงของแดนนี่กระซิบเบา ๆ ผมเงยหน้าไปสบตามันทันที ด้วยความไม่เข้าใจ ตั้งสติได้อีกทีกางเกมวอร์มที่แดนนี่มัจะใส่ประจำก็ร่นลงตรงหน้าขา ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันที่อีกฝ่ายร่นกางเกงตัวเองลง แต่ที่แน่ ๆ ไอ้น้องน้อยของแดนนี่มันกำลังตั้งเด่ขึ้นเป็นสง่าอย่างท้าทาย

ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่กับขนาดที่ดูไม่เป็นมิตรของแกนกายของแดนนี่ ไอ้ครั้นจะให้อมมันก็ยังไงอยู่ เพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขนาดปากของตัวเองจะพอดีมั้ย และที่สำคัญไอ้เรื่องใช้ปาก กับเมียเก่าไอ้แอลยังไม่เคยเลย แต่เพราะศักดิ์ศรีมันค้ำคอ ไหน ๆ จะบุกแล้วมันต้องบุกเต็มกำลัง ถอยไม่ได้อีกต่อไป ผมจึงกลั้นใจถดตัวลงไปยังด้านล่างของแดนนี่ ใช้ลิ้นของตัวเองเลียสิ่งนั้นตั้งแต่โคนไล่ขึ้นจนถึงส่วนปลาย

“อา.. ดี” แดนนี่พึมพำ เป็นเสียงที่ฟังเหมือนอยู่ไกลเป็นร้อยไมล์ เพราะตั้งแต่ตัดสินใจทำให้ด้วยปาก ผมเองก็สติหลุดไปเหมือนกัน ผมใช้ลิ้นเน้นเลียไปที่ช่วงปลายรัว ๆ เหมือนกับเลียไอติมแท่ง พลางใช้มืออีกข้างล้วงเข้าไปจับน้องน้อยของตนเองไว้เหมือนกัน อารมณ์โคตรจะพลุ่งพล่านและไม่มีอะไรจะเสีย คิดแค่ว่าถ้าแดนนี่เผลอผมจะได้เตรียมจ่อเข้าทางหลังถ้ำทันที

กูเป็นเกย์แน่แล้ว

 

“แอล…” แดนนี่ฮึมฮำอีกครั้ง มือหนาของมันจับเข้าที่ไหล่ของผม ขณะที่ผมเริ่มจะใช้ริมฝีปากขบที่ส่วนยอดของแท่งหนา ผมช้อนตาขึ้นมองแดนนี่ทฝ ด้วยความคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะสุขสมหรือไม่

“!!!” ผมเบิกตากว้างทันที เมื่อแดนนี่ผลักตัวผมออกแล้วจับผมนอนหงาย แววตาที่ดูขี้เล่นของแดนนี่กลับกลายเป็นแววตาจริงจัง ทำให้ผมรู้สึกตระหนกว่าตัวเองทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า แดนนี่สบถอะไรสักอย่าง แล้วรูดกางเกงช่วงล่างของผมออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ปามันไปอีกฟากของเตียง แล้วก็ย่อตัวลงใช้ปากให้กับน้องน้อยของผมบ้าง

“…” แดนนี่โลมเลียจนน้องน้อยของผมชุ่มด้วยน้ำลายไปหมด ผมรู้สึกร่อแร่ทันทีเพราะเมื่อกี๊ผมเองก็รูดของตัวเองจนจะถึงฝั่งฝันอยู่แล้ว ยิ่งแดนนี่มาใช้ปากขบไปทั่วแท่งมันก็ยิ่งร้อนรุ่มไปหมด ร่างกายที่ไม่รักดีของผมเริ่มสั่นระรัว มืออีกข้างของผมจับเข้ากับศีรษะของแดนนี่ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็กำผ้าปูเตียงเอาไว้

“อือ จะปล่อยแล้ว เอาออก” ผมบอกแล้วกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น ไม่รู้ตอนไหนที่ขาทั้งสองข้างยกขึ้นมายันกับพื้นเตียง อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะปล่อยใส่หน้าของแดนนี่ ศึกคราวนี้เห็นทีต้องยอมแพ้เพราะพลาดพลั้ง

“พี่ไม่ให้แอลปล่อยง่าย ๆ หรอก” แดนนี่เลียยอดปลายที่ปริ่มน้ำของผมเบา ๆ แล้วยกยิ้มให้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้ทำเอาผมเริ่มไม่แน่ใจ ว่านี่ใช่แดนนี่ เหนือเทพที่ผมรู้จักหรือเปล่า

“จ.. จะทำอะไร ปล่อยผมก่อน” ผมพึมพำ ประโยคเมื่อกี๊ของแดนนี่มันโคตรเอาแต่ใจเลยไม่ใช่เหรอวะ ในเมื่อผมจะสุดอยู่แล้ว และพร้อมหลั่งแล้วด้วย ทำไมถึงมาห้ามกัน ไหนมือหนา ๆ ของมันที่ยังจับส่วนกลางน้องชายของผมเอาไว้แน่นอีก

“ชู่ว.. แอล ให้พี่นะ”  แดนนี่เคลื่อนตัวขึ้นมากระซิบข้างหูผม เสียงแหบและกระเส่าของมันทำเอาผมตาลาย ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รู้ตัวสักหน่อยว่าแดนนี่กำลังขออะไร แต่เอาเข้าจริง คืนนี้มันควรจบที่ต่างคนต่างใช้ปากให้กันมากกว่า ผมไม่พร้อมจะมาเจ็บตัวหรอก ถ้าผมได้เสียบดิว่าไปอย่าง

“ไม่เอา มันเจ็บ” ผมตอบ ไม่รู้ทำไมเสียงตัวเองก็ออกมาเง้างอนเหมือนแม่หญิงซะอย่างนั้น

“นะครับ พี่จะทำให้รู้สึกดี” แดนนี่ว่าพลางรูดมือหนาของมันกับแกนกายของผม นิ้วโป้งของมันบดเบียดกับส่วนหัวจนมีน้ำเหนียว ๆ ออกมา ผมเองจะไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้ามันยังจับอยู่อย่างนี้คงอึดอัดตายแน่ ๆ

“อ.. อือ ม.. ไม่”

“โอเค งั้นเลิกเล่นดีกว่า พี่คิดว่าแอลจะชอบพี่บ้างเลยมาถึงขั้นนี้” แดนนี่ตัดพ้อแล้วปล่อยส่วนออกไหวของผมออก ทำท่าเหมือนจะลุกออกจากเตียงไป

ผมไม่ทันได้คิดตามมากหรอก ด้วยการประมวลจากสมองอันน้อยนิดของผมก็คือแดนนี่จะทิ้งผมกลางทางอีกแล้ว และคนที่ทำล่มก็เป็นผมเองด้วย และมันก็เกิดภาพซ้อนตอนที่แฟนเก่าจะทิ้งผมไปอีกครั้ง และผมไม่พร้อมที่จะเสียใครไปอีกแล้ว..

“พี่แดน..” ผมดึงแขนของแดนนี่เอาไว้แล้วรวบรวมความกล้าพูดออกไป เพราะส่วนร่างที่ชูชันและค้างเติ่งในอารมณ์ทำให้ผมขยับตัวไม่ถนัดนัก

“…” แดนนี่หันกลับมามองผมทันที ดวงตาที่เหมือนกับหมาป่าล่าเหยื่อยังคงไม่ได้จางหายไปไหน และมันก็เย็นชาเสียจนผมกลัว

“ถ.. ถ้าให้ทำ ทำเบา ๆ ได้มั้ย” ผมยกมือขึ้นขยี้ตาที่รื้นไปด้วยน้ำอีกครั้ง ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความกลัว ที่ไม่ใช่กลัวเจ็บอีกต่อไป แต่มันกลับกลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง

“ครับ จะเบา ๆ ครับ” แดนนี่เปิดลิ้นชักหยิบเจลหล่อลื่นและกล่องถุงยางออกมา ย่อตัวลงกอดผมที่นอนอยู่แล้วหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ผมไม่ชินเลยกับการถูกทรีทเหมือนผู้หญิงแบบนี้

แดนนี่ชโลมเนื้อเจลลงบนฝ่ามือแล้วค่อย ๆ ลูบลงที่ก้นของผม สัมผัสจากของเหลวทำผมรู้สึกเย็นวาบไปหมด เมื่อถึงคราวที่นิ้วของแดนนี่เข้าไปในช่องทางข้างหลัง ผมก็เกร็งมือเกร็งเท้าสุดขีด มันเจ็บจนรู้สึกร้าวรานไปทั่วช่วงล่าง เจ็บจบไอ้อารมณ์ที่จะปลดปล่อยเมื่อกี๊แทบจะหายไป

“แอลเจ็บมั้ย”  แดนนี่กระซิบถามขณะที่แหย่มือสวนเข้าออกด้านหลังของผม แม้ใจอยากจะร้องไห้ใส่แล้วด่าว่าเจ็บสิไอ้สัตว์ แต่ผมกลับทำได้แค่พยักหน้าขึ้นลงเพราะพูดไม่ออก ยิ่งคราวที่แดนนี่สอดนิ้วที่สองเข้ามาผมแทบร้องกรี๊ด ครับ กรี๊ด เพราะมันเจ็บมาก เหมือนช่องทางจะฉีกขาด ปลายเท้าของผมจิกเข้ากับผ้าปูที่นอนไปเต็ม ๆ (แม้ว่าจะถ่างออกเกือบร้อยแปดสิบองศา) แดนนี่เองก็เหมือนจะรู้ เลยใช้มือรูดน้องชายของผมขึ้นลงให้ผ่อนคลาย และไปรู้สึกเสียวจากจุดนั้นแทน ซึ่งมันค่อนข้างได้ผล

“อื้อ! ตะ.. ตรงนั้น” ผมฮึมฮำในลำคอ จู่ ๆ ก็รู้สึกเสียวเกร็งจากทางด้านหลังขึ้นมา และมันรู้สึกเสียวซ่านจนขนลุกชูชันไปหมด ที่เคยได้ยินมาว่าผู้ชายเองก็มีจุดจีสป็อตนั้นคงจะจริง แต่เหมือนวันนี้ไอ้แอลจะเจอจุดของตัวเองแล้วด้วย

“ตรงนี้เหรอ” แดนนี่หัวเราะเล็ก ๆ แล้วขยับนิ้วที่อยู่ในตัวของผม ผมรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายเหมือนจะแกล้งผม แต่ผมเองก็ไม่กล้าด่า ไม่กล้าพูดด้วยซ้ำว่ามันรู้สึกดี และดีกว่าการมีเซ็กส์แบบที่เคยทำมาซะอีก

“อะ.. จะเอาเข้ามามั้ย ถ.. ถ้าไม่เข้าจะรูดเองละนะ” ผมบ่นไม่เป็นภาษา ขณะที่ช่วงตัวก็ดีดขึ้นเป็นสะพานโค้งอย่างหน้าอาย จริง ๆ ก็น่าอายตั้งแต่แหกแข้งแหกขาให้เขาเล่นแล้วล่ะ

“ใจร้อนจังเรา” แดนนี่กระซิบ จากนั้นก็ถอนนิ้วออกแล้วยกขาของผมขึ้นไปพาดบนไหล่กว้าง ๆ ของมัน ช่วงตัวด้านล่างของผมยกสูงทันที พร้อมกับของแข็งบางอย่างที่เข้ามาแทนที่นิ้วเรียวของแดนนี่ ผมหายใจถี่ทันทีเหมือนไอ้เด็กขี้ก้างที่วิ่งรอบสนามบอลสี่รอบ ยิ่งแดนนี่สอดใส่แกนกายยักษ์ของมันเข้ามา แค่เพียงส่วนหัวมันก็ทำเอาผมหน้าซีดแทบจะเป็นลมคาเตียง

“อึก.. เจ็บ ๆ!” ผมยกฝ่ามือทั้งสองขึ้นปิดหน้าปิดตาแล้วร้องโอดโอย นิ้วว่าเจ็บโคตร ๆ แล้ว แต่พอเป็นไอ้นั่นที่เหมือนจะใหญ่กว่าหลายเท่ามันยิ่งทั้งเจ็บและแสบไปหมด

“ผ่อนคลายแอล อย่างเกร็งตัว” แดนนี่พยายามพูดอย่างใจเย็น แม้ว่าจริง ๆ แล้วก็กัดฟันกรอดอยู่เหมือนกัน พอช่วงหัวผ่านเข้ามาข้างในได้ ร่างกายของของผมก็ตอบรับด้วยการตอดแท่งทองของแดนนี่แน่น ๆ หน้าของแดนนี่ทั้งเจ็บและรู้สึกดีจนผมรู้สึกหมั่นไส้

“ฮ.. ฮา” ผมครางในลำคอ นึกหงุดหงิดใจที่แดนนี่กำลังจะไปฝั่งฝันคนเดียว จึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อจับส่วนอ่อนไหวของตัวเอง แล้วรูดขึ้นลงเพื่อปลุกอารมณ์ไปด้วย

“ไม่ต้อง พี่บอกแล้วไงว่าจะทำให้แอลรู้สึกดี” แดนนี่ที่เห็นว่าผมกำลังจะช่วยตัวเองก็จับมือทาบกับมือของผมที่แกนกาย แล้วโน้มตัวลงจูบที่ปากของผมอีกครั้ง ผมหลับตายอมให้แดนนี่เป็นฝ่ายนำ ยกมือขึ้นคล้องคออีกฝ่าย ดุนลิ้นใส่กันไปมา แลกรสฝาดจากริมฝีปากของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ผมพยายามจะลืมแกนกายของแดนนี่ที่เชื่อมต่อกับช่วงล่างของตัวเองอยู่ เพราะมันเจ็บแสนเจ็บ และไปโฟกัสกับการจูบแทน

“อื้อ! ต.. ตรงนั้น!” ผมลืมตาโพลง ถอนจูบจากปากของแดนนี่ แล้วมองหน้าแดนนี่อย่างขอร้องอ้อนวอน เมื่อรู้สึกได้ว่าแกนกายของแดนนี่ไปโดนจุดเสียวของตนเองภายใน ช่วงล่างของผมบดเบียดไปกับช่วงล่างของแดนนี่อย่างต้องการ และหวังจะได้ครอบครองเพื่อสุขสม

“แอลอยากให้พี่ทำอะไรกับ ตรงนั้น เหรอครับ” แดนนี่ยิ้มร้ายแล้วพรมจูบลงที่คอของผม ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บราวมดกัดเนื่องจากอีกฝ่ายดูดต้นคอของผมไปทั่ว นึกหงุดหงิดใจกับอีกฝ่าย เป็นไปไม่ได้ที่แดนนี่จะไม่รู้ว่าผมต้องการอะไร แต่ที่พูดออกมาก็เพราะรู้สึกสะใจและอยากเอาชนะ

“แรง ๆ..” ผมพึมพำ เพราะรู้ดีว่าถ้าแดนนี่กระแทกหรือสอดใส่เข้าไปมากกว่านี้ มันจะโคตรรู้สึกดี

“อะไรกันเมื่อกี๊ยังขอให้เบา ๆ อยู่เลย อืม.. ลองขอดี ๆ หน่อยสิครับ เป็นเด็กดื้อพี่ไม่ช่วยนะ” แดนนี่เลิกนัวเนียกับช่วงคอของผม แล้วจ้องมาที่หน้าของผม แสงจากนอกหน้าต่างกระทบเข้ากับใบหน้าหล่อที่มีเหงื่อผุดเต็มใบหน้า มันดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหลอย่างประหลาด บางทีผมอาจจะหื่นจนเสียสติไปก็ได้ เพราะดันรู้สึกว่าหน้าตาตอนมีอารมณ์ของแดนนี่แม่งโคตรจะหล่อ

ในเมื่อเล่นไม้แข็งแบบนี้ ผมเองก็จะไม่ยอมเหมือนกัน ถ้ามันคิดว่าท่าทีหล่อ ๆ โชว์เหนือนั่นจะทำให้ใครต่อใครระทวยได้ ผมเองก็มีไม้เด็ดเหมือนกัน

 

“ป๋า.. ทำหนูแรง ๆ” ผมพูดแล้วเผยอปากใส่อย่างเหนื่อยอ่อน ใช้ไม้ตายเพราะรู้ว่าแดนนี่ชอบที่จะให้เรียกแบบนี้ เริ่มรู้ตัวว่าถ้าไม่เสร็จตอนนี้ผมได้หมดสติไปกับเตียงทั้ง ๆ ที่ไอ้นั่นยังคาอยู่ที่ก้นแน่ ๆ

“ขี้อ่อยชิบหายเลย” พูดไม่ทันขาดคำแดนนี่ก็จับช่วงตัวของผมให้มั่น แล้วกระแทกช่วงล่างของตัวเองไปมา แรงเสียดสีเมื่อยามที่แกนกายของแดนนี่เข้าออกกับตัวของผมทำเอาต้องซี้ดปาก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่มีอีกต่อไป ผมรู้สึกได้ถึงของเหลวบนหน้าท้องของตนเอง เนื่องจากน้องชายของผมก็พ่นน้ำออกมาก่อนแล้ว แดนนี่หัวเราะแล้วรูดมันขึ้นลงจนผมวาบหวามไปทั้งตัว ผมจิกเล็บลงไปกับผ้าปูที่นอนเต็มแรงด้วยความรู้สึกดีที่แผ่ซ่านไปทั้งตัว

“อื้อ! จ.. จูบแอลหน่อย” ผมร้องทั้งที่ร่างกายขยับขึ้นลงไปกับเตียงจนตัวโยน คราวนี้ไม่ต้องมีลูกไม้อะไรมาก แดนนี่ก็กดตัวลงมาจูบที่ริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว ขาของผมลดลงมากอดรัดช่วงตัวของแดนนี่แทน

“แอล.. แน่นจนพี่จะเสร็จแล้ว” แดนนี่ว่าแล้วก็ใช้ฟันขบเบา ๆ ที่ริมฝีปากล่างของผม

“พ.. พี่แดน!”  เราทั้งสองเอาแต่นัวเนีย และกระแทกกันไปมาพักใหญ่ เสียงเนื้อกระทบกันไปมาดังจนน่าอาย ไม่รู้ว่าเพราะร่างกายของผมมันปรับสภาพให้ชินกับขนาดของแดนนี่หรือเปล่า พอแดนนี่เอาเข้าออกมันก็ไม่ได้เจ็บเท่าตอนเอาเข้าตอนแรกแล้ว ของเหลวจากน้องชายของผมก็พุ่งเลอะเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งหน้าท้องของผมและของแดนนี่ ไม่นานผมก็เสร็จ (และไม่ได้เสร็จเพราะแรงกระตุ้นจากด้านหน้าด้วย) สักพักแดนนี่ก็เสร็จตามมา

“พี่จะเอาออกแล้วนะ” ผมกลั้นใจอีกครั้งในตอนที่แดนนี่ถอนแกนกายของตัวเองออกจากตัวผม แม้ว่าตาของผมจะพร่าลงเพราะความเหนื่อย แต่ผมก็เห็นว่าแดนนี่ถอดถุงยางแล้วเอาไปทิ้งลงถังขยะ ก่อนที่จะอุ้มผมที่นอนอยู่บนเตียงด้วยท่าเจ้าสาว

“ไปไหน..” ผมถามด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน อยากนอนจะแย่แล้ว เหนื่อยก็เหนื่อย

“อาบน้ำก่อนแล้วจะให้นอน” แดนนี่ตอบกลับขณะที่อุ้มผมไปยังห้องน้ำ

เมื่อถูกอุ้มเข้ามาด้านในห้องน้ำ แดนนี่ก็จับผมให้ยืนใต้ฝักบัวด้วยกัน ผมที่แทบจะไม่มีแรงยืนอยู่แล้วใช้สองมือจับไหล่ของแดนนี่เอาไว้แน่นเพราะกลัวล้ม ขาของผมอ่อนเปลี้ยไปหมด ยิ่งกว่าไปเตะบอลสามแมตช์ติดต่อกัน

“กอดพี่ไว้นะ” แดนนี่ยิ้มบางแล้วใช้แขนอีกข้างโอบกอดลำตัวของผมเอาไว้ สายน้ำจากฝักบัวมันเย็นจนผมรู้สึกเย็นไปทั้งตัว ผมเลยซุกหน้าเข้ากับไหล่กว้าง ๆ ของแดนนี่เอาไว้เหมือนกับแมวที่โดนจับอาบน้ำครั้งแรก ร่างกายของผมสั่นไปหมด โดยเฉพาะตอนที่แดนนี่ถูสบู่ไปทั่วร่างของผมอย่างลวก ๆ ผมไม่ชอบเลยเวลาแดนนี่ใจดี เพราะปกติก็เห็นกวนตีนตลอด เวลาใจดีมาก ๆ ผมก็มักจะใจสั่นกันมุมนี้ของเขาเสมอ

เราใช้เวลาในห้องน้ำพักหนึ่ง แดนนี่ไม่ได้จัดกิจกรรมให้ผมเพิ่มมากว่านั้น คงเพราะกลัวผมจะเป็นลมไปก่อน พออาบน้ำเสร็จแดนนี่ก็จัดการเอาผ้าขนหนูห่อตัวของผมเอาไว้ก่อนอุ้มมาที่เตียง จากนั้นจึงสวมชุดคลุมอาบน้ำให้ ไม่นานแดนนี่ที่สวมชุดคลุมอาบน้ำเหมือนกันก็เดินกลับมานอนด้วย

“พี่ชอบแอลนะ” แดนนี่ที่นอนมองหน้าผมจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมา แล้วค่อย ๆ ขยับตัวมาใกล้กับตัวผม หอมแก้มผมครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ มันยิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะนอนหันหลังให้กับผม ผมมองแผ่นหลังของคนที่นอนข้าง ๆ ด้วยความรู้สึกสับสน และมีคำถามในใจ

จะไม่นอนกอดกันหน่อยเหรอ ผมคิด

 

ผมค่อย ๆ ขยับหมอนของตัวเองให้เข้าไปใกล้กับแดนนี่ ทั้งง่วงทั้งลังเล สุดท้ายก็ยกมือขึ้นกอดเอวของแดนนี่เอาไว้แล้วซุกหน้าเข้าไปกับแผ่นหลังกว้างนั่น อยากจะบอกเหมือนกันว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่จิตสำนึกในใจก็ห้ามเอาไว้ เพราะกลัวว่าถ้าบอกไปจะต้องเสียใจ ผมรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังเล่นกับอะไรอยู่ ถึงแม้ว่าอยากจะบอกว่า แอลก็ชอบพี่แดนนี่เหมือนกัน ก็ตาม ก็ต้องหยุดไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว ชอบ ของแดนนี่ กับ ชอบ ของผม มันจะเป็น ชอบ อันเดียวกันหรือเปล่า

#แอคชั่นวันเทค

TALK : สวัสดีค่า ชิววี่นะคะ เวิร์ดเพลสเรื่องคืนนั้นตามสัญญาค่ะ

ที่ได้กันคราวนี้ก็เพราะหื่นและอยากเอาชนะล้วน ๆ ด้วย ทำให้พี่แอลก็ยังสับสนอยู่ แต่ตอนนี้ก็ลดเรื่องสับสนไปเรื่องหนึ่งแล้วก็คือ เขารู้ตัวแล้วว่าเป็นเมีย 555 ถ้าสังเกตในจอยตอนล่าสุดแอลดูพองขน ดุแดนนี่บ่อย ๆ ไม่ใช่อะไรนะคะ พี่หนูแอลกำลังเถลิงอำนาจใหม่ที่ได้รับค่ะ เหมือนรู้สึกว่าเนี่ยเสียตัวให้แล้ว เป็นรับให้แล้ว แดนนี่ก็ต้องตามใจเค้าสิ อะไรประมาณนั้น พอคุณโมกข์มาเขาก็เลยงอน หนีไปนอนคอนโดน้อทแทน ถึงแม้ว่าจะได้เสียกันแล้ว สถานะที่จะหึงหวงกันมันก็ยังไม่มีค่ะ

ยังรออ่านคอมเม้นทั้งในแท็กและในจอยเสมอเลยนะคะ ตามอ่านตลอดเลย สำหรับตอนนี้ก็จบลงเท่านี้ ไว้เจอกันใหม่ในจอย ขอบคุณมากค่ะ

บทที่ ๑๘ : ฟ้าหลังฝน #มนต์วิฬาร์

Cut

มนต์วิฬาร์

บทที่ ๑๘ : ฟ้าหลังฝน

 

อ่างอาบน้ำทองแดงขนาดใหญ่ดูแน่นไปในถนัดตา เมื่อมีชายสองคนอยู่ในอ่างอาบน้ำร่วมกัน ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งสองถูกบดบังด้วยฟองสบู่จำนวนมากที่ล้นออกมาจากอ่าง ดั่งเพลิงนอนแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่คุณชายสองนั่งหน้าแดงจัดอยู่ในอ้อมกอดของเขาในอ่าง อันฬาหนุ่มยิ้มเล็ก ๆ พลางกดจูบลงที่รอยกัดที่เขาทำเอาไว้เมื่อคืนบนต้นคอของคุณชายสอง จากนั้นจึงกดจูบอีกครั้งที่บริเวณหัวไหล่ของคนรัก

“ไม่โกรธสองแล้วใช่ไหม” คุณชายสองหันหน้ากลับไปถามคนที่อยู่ด้านหลัง พลางพิงกายทับไปกับร่างกายของดั่งเพลิง

“ใครโกรธ ไม่มีเสียหน่อย” ดั่งเพลิงหัวเราะ เขาแกล้งใช้ฟองสบู่ขึ้นมาป้ายหน้าคุณชายสอง เอียงใบหน้าไปหอมแก้มกลมฟอดใหญ่

“นี่ แกล้งสองอีกแล้วหรือครับ” คุณชายสองหน้ามุ่ยทันที คนตัวผอมใช้หลังมือยกขึ้นปัดฟองสบู่ออกจากใบหน้าของตน ไม่รู้ตัวเลยว่าเหมือนกับลูกแมวโดนจับอาบน้ำไม่มีผิด

“ก็สองเวลางอนน่ารัก” ดั่งเพลิงส่งยิ้มหวาน จากนั้นจึงเลื่อนมือไปจับหน้าท้องของคนรักที่นั่งอยู่ด้านหน้า เขาแนบหน้าลงกับไหล่เล็กแล้วมองหน้าของคุณชายสองจากด้านข้าง

ดั่งเพลิงยิ้มบางเมื่อเห็นว่าคุณชายสองหันหน้ามาหาตน ดวงตากลมโตที่หากได้สบตาครั้งหนึ่งก็ราวกับตกอยู่ใต้มนตร์สะกด ปอยผมที่เปียกชื้นเพราะน้ำ และริมฝีปากบางสีชมพูสด ค่อย ๆ ดึงดูดเขาให้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้

ใครบางคนได้กล่าวเอาไว้ว่ายิ่งตีตราแล้วก็ยิ่งยากที่จะห้ามใจ ดั่งเพลิงเพิ่งรู้ว่านั่นเป็นเรื่องจริงก็วันนี้ ชายหนุ่มหักห้ามใจไม่ไหว จึงยื่นหน้าเข้าไปประทับจูบที่ริมฝีปากบาง ลูกแมวของเขาที่เหมือนเริ่มจะคุ้นชินกับการจูบก็ตอบรับอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มสอดลิ้นเข้าไปทักทายคุณชายสอง พลางลูบไล้ต้นขาเล็กที่โผล่พ้นน้ำและมีคราบสบู่เพื่อให้อีกคนผ่อนคลาย

“พี่เพลิง..” คนตัวเล็กกว่าไล้มือไปจับมือของดั่งเพลิงเอาไว้ แล้วจึงส่งลิ้นหวานตอบโต้เขากลับ ดั่งเพลิงยิ้มรับแล้วจึงดูดคลึงริมฝีปากล่างของคุณชายสอง ทั้งสองส่งผ่านรสหวานผ่านการจูบอยู่นานสองนาน โลมล้ำกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร เพราะสะโพกผายของคุณชายสองเสียดสีกับตัวของดั่งเพลิงที่อยู่ด้านหลัง ทำให้แก่นกายของดั่งเพลิงที่อยู่ใต้น้ำตื่นตัวขึ้น คุณชายสองที่พอจะรู้สึกได้จากทางด้านหลังจึงถอนจูบออก แล้วมองไปที่ดั่งเพลิงด้วยความตกตะลึง

“สอง.. สองจะว่าอะไรไหมครับ” ดั่งเพลิงเอ่ยปากถาม เขาไม่คาดคิดมาก่อนเหมือนกันในทีแรกว่าจะทำอะไรเลยเถิด คิดเพียงแค่ว่าจะอาบน้ำกับคุณชายสอง แล้วค่อยเข้านอนเท่านั้น

เขาไม่อยากทำเลยแต่มันช่วยไม่ได้

“…” คุณชายสองส่ายหัวเป็นพัลวันทั้งที่หน้าขึ้นสีแดงจัดเป็นลูกมะเขือเทศ

“ขอบคุณครับ” ดั่งเพลิงยิ้มกว้างเมื่อได้รับอนุญาต เขาให้แขนแกร่งจับให้คุณชายสองพลิกตัวมานั่งบนตัวเขาในอ่างทันที เพราะตำแหน่งที่นั่งทำให้ตัวของคนตัวผอมอยู่สูงกว่าดั่งเพลิงเล็กน้อย ชายหนุ่มจึงกดจูบลงไปที่ร่างกายด้านหน้าที่มีคราบฟองสบู่บ้างประปราย จากนั้นจึงได้มือนวดคลึงไปที่ก้นกลมของคุณชายสอง

“อือ..” คุณชายสองร้องในลำคอ เนื่องจากดั่งเพลิงสอดนิ้วเข้าไปทางช่องทางหวาน จากนั้นจึงใช้อีกมือหนึ่งนวดที่แก่นกายของคนตัวเล็กกับแก่นกายใหญ่ของเขา ไหล่เล็กสั่นเทิ้มแล้ว คุณชายสองพยายามจับขอบอ่างเอาไว้ไม่ให้เสียหลัก ดั่งเพลิงยิ้มอย่างพอใจ ชายหนุ่มแกล้งเลียที่ยอดอกสีสวยที่ชุ่มไปด้วยน้ำ แล้วนวดคลึงที่ส่วนหัวของแก่นกายคุณชายสอง คนตัวเล็กเริ่มครางเสียงกระเส่า

“จ.. จูบสองหน่อยซี.. อือ” เสียงหวานดังขึ้นจากด้านบน จนดั่งเพลิงเงยหน้าขึ้นไปมอง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำของคนตัวเล็ก และริมฝีปากที่เผยอออกเหมือนเป็นการเย้ายวนนั้น ทำเอาสติของดั่งเพลิงแตกกระเจิงไปจนหมด เขาจับสะโพกของคนตัวเล็กให้นั่งลงทับตัวเขาทันทีจนน้ำในอ่างกระเพื่อมออก แล้วจึงยื่นหน้าขึ้นไปจุมพิตกับคุณชายสองอย่างตามใจ

“พี่จะไม่เอาเข้าไป ถูให้พี่หน่อยซีครับ” ดั่งเพลิงกระซิบแล้วงับปากคนตัวเล็กเบา ๆ ก่อนที่จะสอดสัมผัสอุ่นเข้าไปในปากเล็ก หยอกล้อกับลิ้นหวานของคนที่นั่งทับเขาอยู่ มือหนาทั้งสองข้างจับเข้าที่ก้นกลมของคุณชายสอง จากนั้นเขาก็ถูมันแก่นกายใหญ่ที่ของตัวเขาเอง โดยที่คุณชายสองก็ยอมโยกสะโพกขึ้นลงถูไถเบื้องล่างกับส่วนแข็งขืนของดั่งเพลิง

“จะ.. จะไม่เอาเข้ามาหรือ” คนตัวผอมพูดเบา ๆ ขณะโยกสะโพกอยู่บนตัวของดั่งเพลิง น้ำเสียงนั่นทำให้ดั่งเพลิงหลงคิดไปเองว่าอีกฝ่ายอยากให้เขาสอดใส่มากกว่า

“อืม.. ไม่ครับ พี่กลัวสองเจ็บ” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด แล้วลูบหัวให้คุณชายสองซบลงที่ไหล่กว้างของเขา ชายหนุ่มยกเอวของเขาแล้วถูไถส่วนอ่อนไหวของตนกับด้านล่างของคุณชายสองอย่างรวดเร็ว ในขณะที่แกนกายของคุณชายสองก็เสียดสีกับหน้าท้องของเขาเช่นกัน เขาไล่ดอมดมกลิ่นหอมจากตัวของคนรักจากนั้นจึงงับรอยกัดที่คอของคนในอ้อมกอดซ้ำ แรงเสียดสีทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานเขาก็ปลดปล่อยของเหลวออกมาเปรอะเปื้อนช่วงล่างของคนตัวเล็ก และละลายหายไปกับน้ำในอ่าง

“ขี้โกง” คุณชายสองพึมพำเมื่อเห็นว่าดั่งเพลิงปลดปล่อยก่อนตน แก้มกลมพองลมเล็ก ๆ แล้วส่งสายตาไม่พอใจไปให้กับดั่งเพลิง ดั่งเพลิงเห็นดังนั้นจึงหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู

“เดี๋ยวพี่ทำให้ กอดไว้นะ จะกัดพี่ก็ได้” ดั่งเพลิงจับตัวของคนตัวเล็กให้มาสวมกอดตนเอาไว้อีกครั้ง จากนั้นจึงไล้มือหนาไปสัมผัสกับส่วนอ่อนไหวของคุณชายสอง เขาค่อย ๆ นวดคลึงที่ส่วนหัว จากนั้นจึงรูดมือขึ้นลง ในขณะที่มืออีกข้างก็สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางหวานของคุณชายสอง

“อือ.. พี่เพลิง.. อา..” คนตัวผอมเชิ่ดหน้าขึ้นมองเพดานแล้วหลับตาพริ้ม เห็นได้ชัดว่าแพขนตาหนาฉ่ำไปด้วยน้ำ คนตัวเล็กร้องครางออกมาเป็นระยะเพราะใกล้จะถึงฝั่งฝัน

“รู้สึกดีไหม” ดั่งเพลิงยกยิ้มแล้วเลียที่ยอดอกของอีกฝ่ายให้รู้สึกเสียวซ่าน เพียงดั่งเพลิงรูดขึ้นลงอีกไม่กี่ครั้ง สลับกับใช้นิ้วโป้งสัมผัสกับส่วนหัวเบา ๆ คุณชายสองก็ครางเสียงหวานครั้งสุดท้าย ปลดปล่อยออกมาจนหมด คนตัวเล็กหลับตาพริ้มซบหน้าลงที่ไหล่แกร่งของดั่งเพลิงเพราะหมดแรง

“พี่เพลิงร้องไห้หรือครับ..” คุณชายสองเงยหน้าขึ้นไปมองดั่งเพลิงทันที ดวงตาเล็กของดั่งเพลิงแดงก่ำแต่คราวนี้กลับมีน้ำตาไหลออกมา

“ขอบคุณนะครับ.. ขอโทษด้วย..” ดั่งเพลิงยิ้มบางแล้วกดจูบที่แก้มของคนรัก ในขณะที่คุณชายสองนั้นตกใจจนรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของดั่งเพลิง

*****

กลับไปที่ Dek-D

บทที่ ๑๗ : ด้วยรักนิจนิรันดร์ #มนต์วิฬาร์

Cut

มนต์วิฬาร์

บทที่ ๑๗ : ด้วยรักนิจนิรันดร์

 

“เป็นของพี่เถิดนะคนดี แล้วพี่ก็จะเป็นของสองเช่นกัน”

 

คุณชายสองได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเล็ก ๆ แม้ว่าจะมองไปทางอื่น ดั่งเพลิงรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงใช้ความกล้าอย่างมหาศาลในการตัดสินใจ เขาใช้มือทั้งสองข้างค่อย ๆ ลูบใบหน้าของผู้เป็นภรรยา เมื่อคุณชายสองหันกลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง เขาก็เห็นว่านัยน์ตากลมคู่สวยบัดนี้สะท้อนเป็นแค่ภาพของเขาเพียงคนเดียว ดั่งเพลิงไม่รีรอที่จะกดจูบลงไปที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายทันที เขาใช้มือข้างขวากดเน้นริมฝีปากล่างของคุณชายสองให้เผยอออก เพื่อที่ตนจะได้สอดแทรกลิ้นอุ่นเข้าไปตักตวงรสชาติและความหวานหอมจากอีกฝ่าย

ดั่งเพลิงกระหยิ่มยิ้มเล็กน้อย นึกเอ็นดูที่อีกฝ่ายก็พยายามใช้ลิ้นโต้ตอบเขาบ้างเหมือนกัน นานวันชักยิ่งเก่งขึ้น เขาไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ยิ่งรู้สึกถึงสัมผัสหนัก ๆ บนไหล่ก็ยิ่งทำให้เขาดีใจ เพราะอีกฝ่ายคล้องคอเขาเอาไว้เพื่อพยุงตัวไม่ให้เสียหลัก ดั่งเพลิงโลมเลียตรงมุมปากของคุณชายสองที่มีน้ำเหลวไหลออกมา เขาตั้งใจใช้ลิ้นส่งมันกลับคืนยังริมฝีปากหวานของคนในอ้อมกอด ในขณะที่คุณชายสองหลับตาพริ้มเพลิดเพลินเพราะรสจูบ ดั่งเพลิงก็ลูบไล้มือของเขาไปยังก้นกลมของอีกฝ่าย เขาคลึงอวัยวะนุ่มนิ่มนั่นด้วยมือเดียวแล้วดันช่วงล่างของคุณชายสองให้มาบดเบียดกับช่วงหน้าด้านล่างของเขา แม้ว่าจะมีผ้าอาภรณ์ขวางกลั้น แต่ความต้องการของเขากลับควบคุมแทบไม่อยู่ ชายหนุ่มรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงรู้สึกได้ถึงสิ่งที่นูนอยู่ใต้กางเกงของเขา

“อือ..” คุณชายสองร้องในลำคอเป็นเชิงประท้วง ดูท่าเขาจะหื่นกระหายใส่อีกฝ่ายจนคุณชายสองเองก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกัน แต่ดั่งเพลิงก็ไม่รีรอที่จะอุ้มคนตัวเล็กไปยังเตียงใหญ่ เขาบรรจงวางคุณชายสองให้นอนราบไปกับพื้นเตียง เจ้าของดวงตากลมมองคนที่ยืนค้ำอยู่ไม่กระพริบ จนดั่งเพลิงหลุดยิ้มเล็ก ๆ เนื่องจากเขากำลังจัดการเปลื้องผ้าด้านบนของตนเองออกแต่กลับมีลูกแมวมองเขาไม่วางตา เขารีบปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่เปียกปอนของตนออกแล้วโยนมันไว้ข้างเตียง หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมกางเกงของคนที่นอนอยู่ทันที

“คืนนี้พี่คงทำเรื่องไม่ดีอีกหลายต่อหลายอย่าง สองจะอภัยให้พี่ไหมครับ” ชายหนุ่มก้มตัวลงกระซิบข้างใบหูของคุณชายสอง ทั้งที่มือของเขานั้นเตรียมที่จะร่นกางเกงออกจากตัวของอีกฝ่ายแทบจะทันทีทันใด เมื่อได้รับอนุญาต

“ส.. สองจะให้อภัย” คุณชายสองพูดเสียงเบาแล้วยกมือขึ้นคล้องคอดั่งเพลิง ก่อนที่จะกดจูบลงที่แก้มของชายหนุ่มเบา ๆ ดวงตากลมสั่นระริกด้วยความกลัว แต่ก็แฝงความยั่วยวนในสายตาของดั่งเพลิงไปแพ้กัน

“ถ้าหากเจ็บบอกพี่นะครับ” ดั่งเพลิงยกยิ้มแล้วรูดกางเกงออกจากตัวของคุณชายสองทันที เพราะเสื้อตัวใหญ่ของคุณชายสองทำให้เขาเห็นแก่นกายเล็กวับ ๆ แวม ๆ เท่านั้น ที่เห็นกระจ่างแจ้งกลับเป็นต้นขาขาวเนียน ที่น้อยครั้งเขาถึงจะได้เห็นที แต่เพราะความบางและความชื้นก็ทำให้หัวใจเขาเต้นโครมครามเพราะทรวดทรงดังกล่าวมันกลับชัด แม้อยู่ใต้ร่มผ้าก็ตามที

“อื้อ..” คนตัวเล็กร้องในลำคอ เมื่อดั่งเพลิงทิ้งตัวหนัก ๆ ทับลงที่ตัวของคุณชายสองแล้วเริ่มโลมเลียที่ยอดอกสีชมพูหวานผ่านเสื้อที่เปียกชื้น ดั่งเพลิงทั้งดูดและใช้ริมฝีปากเม้มจุดอ่อนไหวดังกล่าว ทำเอาคนใต้ร่างขนลุกขนชันไปเสียหมด เมื่อคุณชายสองเด้งตัวรับอีกครั้ง ดั่งเพลิงก็ใช้นิ้วเรียวนวดวนที่ช่องทางหวานด้านหลังของอีกฝ่าย เขาสอดนิ้วไปเพียงหนึ่งนิ้วในทีแรก พอให้กระตุ้นถึงจุดกระเส่า และเมื่อสัมผัสได้ว่ามีของเหลวไหลออกมา ชายหนุ่มก็สอดแทรกนิ้วที่สองเข้าไปในช่องทางแคบนั้นทันที  ยามเมื่อนิ้วเรียวของดั่งเพลิงเข้าไปสำรวจภายใน เจ้าแมวน้อยก็เริ่มที่จะกางขาออกตามสัญชาตญาณ แก่นกายเล็กที่เคยเห็นวับ ๆ แวม ๆ ในตอนนี้ก็ชูชันขึ้นเด่นเป็นสง่า เผยให้เห็นสีชมพูน่ารักน่าชังช่วงปลาย ดั่งเพลิงลอบยิ้มน้อย ๆ แล้วใช้มือข้างที่ว่างรูดมันขึ้นลงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของคุณชายสอง ยิ่งรูดถี่มากเท่าไหร่ ช่องทางด้านหลังก็ตอดรัดนิ้วมือเขามากเท่านั้น

“สองมานั่งบนตัวพี่..” สมองของชายหนุ่มขาวโพลนไปหมด เขาอยากจะหยอกเย้าด้วยนิ้วไปก่อน แต่ตัวเขาเองก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ใจอยากจะสอดใส่จะแย่ ดังนั้นจึงรีบถอดกางเกงของตนออก เพื่อให้แก่นกายใหญ่ของตนเป็นอิสระ ในตอนนี้ดั่งเพลิงมีเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นมาปิดบังร่างกายอีกต่อไป ในขณะที่คุณชายสองนั้นยังมีริบบิ้นสีดำและเสื้อแนบเนื้อท่อนบนหลงเหลืออยู่ เขาไม่อยากถอดมันเท่าไรเพราะรู้สึกว่าเช่นนี้ คุณชายสองนั้นช่างดูยั่วยวนและเซ็กซี่เหลือเกิน

ดั่งเพลิงนั่งลงบนกองผ้าห่มบนเตียง แล้วจับร่างของคนตัวเล็กให้ชันเข่าเหนือช่วงล่างของเขา จับมือทั้งสองข้างของคุณชายสองให้จับไหล่ของตนเอาไว้ จากนั้นก็ใช้มือข้างขวาลูบวนไปที่ก้มกลมของคุณชายสองอีกครั้ง สอดแทรกนิ้วทั้งสองเข้าไปทักทายใหม่อีกรอบ ช่วงล่างของคุณชายสองกระตุกเล็กน้อยเมื่อดั่งเพลิงสอดแทรกนิ้วเรียวเข้าไปช่องทางหวาน

“อ๊ะ.. พี่เพลิง” คุณชายสองกัดปากแล้วหลับตาพริ้มด้วยเพราะอารมณ์ที่เสียวซ่านระคนสุข ยิ่งมองจากมุมล่างคุณชายอนิละนั้นยิ่งยั่วยวนจนดั่งเพลิงแทบเป็นบ้าอยู่แล้ว ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นโลมเลียยอดอกสีสวยอีกครั้งเพื่อหยอกล้อ เพราะแรงกระตุ้นจากทางด้านหน้าและด้านหลังทำให้คุณชายสองแทบทรงตัวไม่อยู่ ต้องจิกเล็บไปยังไหล่กว้างของดั่งเพลิงเพื่อระบายอารมณ์

“ลืมตา มองหน้าพี่” ดั่งเพลิงออกคำสั่ง ขณะเดียวกันเขาก็ถอดนิ้วเรียวออกจากช่องทางด้านหลังของคุณชายสอง ของเหลวที่ไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ชายหนุ่มนึกอยากแกล้งจึงเลียนิ้วเพื่อลิ้มรสมันต่อหน้าต่อตาอีกฝ่าย คุณชายสองเบิกตากว้างทันทีเพราะรู้สึกอาย

“ตาพี่เพลิงเป็นสีทอง..” คุณชายสองพูดเสียงขาดห้วง ดั่งเพลิงรู้ดีว่าตาของเขาเปลี่ยนสีไป เพราะเขาเองก็สัมผัสได้ว่าภายในปากของตนมีเขี้ยวแหลมงอกออกมา

“ตาของสองก็เป็นสีฟ้า รู้ไหม” ดั่งเพลิงหัวเราะน้อย ๆ ขณะมองตาของคุณชายสอง เขาเคยไม่ชอบดวงตาสีฟ้าของคุณชายสอง เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของการสมสู่และปลุกสัญชาตญาณที่ไม่พึงประสงค์ แต่ ณ ตอนนี้ เวลานี้ การที่ได้เห็นดวงตาสีฟ้าอัญมนีอีกครั้ง สำหรับเขามันช่างงดงามจับจิต ต่อให้เป็นตาสีฟ้าหรือตาสีน้ำตาล หากเป็นคุณชายอนิละ เขาก็ยอมรับเลยว่าเขานั้นหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น

“อื้อ!” คุณชายสองจิกเล็บไปที่ไหล่กว้างของดั่งเพลิงอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มจับก้นกลมของชายสองยกขึ้นมาเหนือแก่นกายที่ตั้งโด่ของตนเอง แล้วค่อย ๆ จับให้ร่างกายของเขาและคุณชายสองเชื่อมต่อเข้าหากันโดยไม่ได้ถามความยินยอมจากอีกฝ่าย

“เจ็บไหมครับ นั่งลงมาได้ไหม” ดั่งเพลิงเอ่ยถามคนที่อยู่ด้านบน เขาพยายามลูบหลังปลอบคุณชายสองที่ร่างกายสั่นเทา เพียงเข้าไปแค่ส่วนหัวก็ทำเอาอีกฝ่ายน้ำตารื้น เขาเองก็เริ่มเป็นห่วงคุณชายสองเหมือนกัน ทั้งที่ตั้งใจจะให้ใช้ท่าที่เจ็บน้อยที่สุดแล้วแท้ ๆ

“ม.. ไม่เจ็บ” คุณชายสองพึมพำ แล้วค่อย ๆ ยกสะโพกขึ้นลง เพื่อเปิดทางให้แก่นกายของดั่งเพลิงเข้ามาในช่องทางหวานอย่างเต็มตัว

“อืม..” ภายในมันตอดแน่นเสียจนดั่งเพลิงเองก็ต้องทิ้งมือลงข้างกายเพื่อกำผ้าปูที่นอนเอาไว้ เขากัดฟันกรอดแล้วจึงช่วยคุณชายสองโดยการจับสะโพกของคุณชายสองขึ้นลงตามจังหวะ เสียงครางของคนด้านบนดังระงมไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้เสียงดังจนน่าอาย กลับกันเสียงหวานของคุณชายสองกลับปลุกเร้าอารมณ์ของดั่งเพลิงให้มากขึ้นไปเสียอีก

“อ่ะ.. อา..” คุณชายสองร้องอย่างพอใจ เมื่อแก่นสวาทของดั่งเพลิงเข้ามาจนมิด ร่างกายอันไม่รักดีของคนตัวเล็กโยกสะโพกไปมาอย่างเผลอไผล ยอดอกสีสวยก็ตั้งเด่นเป็นสง่าจนดั่งเพลิงทนไม่ได้ สุดท้ายแล้วชายหนุ่มจึงใช้กำลังดึงเสื้อของคุณชายสองจนกระดุมขาด ทั้งร่างของคุณชายสองเปลือยเปล่าไม่แพ้กัน เหลือเพียงแค่ริบบิ้นสีดำที่ยังอยู่บนคอ

ดั่งเพลิงเริ่มใช้ปากดูดคลึงไปทั่วสรีระบางของคุณชายสอง ทั้งดูดทั้งเม้มจนเป็นรอยสีแดงสดไปทั่ว จากไหปลาร้า ลงมายังอกเล็ก ไล่ลงมาจนถึงข้างลำตัว และเห็นทีจะขาดไม่ได้ ซอกคอขาวที่ปล่อยกลิ่นดอกไม้หอมเชิญชวนเขาเสมอ เขาใช้มือลูบวนที่ซอกคอขาวเพื่อหาจุดที่เหมาะสม จากนั้นจึงพลิกร่างเล็กของคุณชายสองให้นอนราบไปกับพื้นเตียงนอน โดยมีดั่งเพลิงคร่อมอยู่ทั้งที่ร่างกายของทั้งคู่ยังเชื่อมต่อถึงกัน

เมื่อมองจากมุมนี้เขาจึงเห็นได้ชัดว่าแพขนตาหนาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เจ้าของดวงตากลมสีฟ้ามองมาที่เขาเหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง ดั่งเพลิงยิ้มบาง กดจูบที่เปลือกตาของคุณชายสอง แล้วจึงเอ่ยคำที่อยู่ในใจของตน ที่มั่นหมายอยากจะบอกอีกฝ่ายเมื่อคราวถึงเวลา

“เป็นคู่คิด” บรรจงจูบที่ข้อมือเล็ก

“…”

“เป็นคนรัก” จูบอีกครั้งที่แก้มกลม

“…”

“เป็นกาฬวิฬาร์ของพี่ และให้พี่เป็นอันฬาเพียงคนเดียวของสอง” จูบแผ่วเบาที่ริมฝีปาก

“อื้อ..” คนที่อยู่ใต้ร่างพยักหน้าทั้งน้ำตาให้ดั่งเพลิง จากนั้นจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอชายผู้เป็นทั้งสามีและคนที่ตนตกหลุมรัก คุณชายสองรู้ดีว่าอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้ดั่งเพลิงจะตีตราตนให้เป็นกาฬวิฬาร์ของดั่งเพลิงตลอดกาล และคนตัวผอมเองก็ยินดี

 

“เป็นแม่ของลูกพี่นะครับ”

 

ดั่งเพลิงยิ้มกว้างแล้วมองหน้าคุณชายสอง ดวงตาของเขาก็แดงก่ำไม่แพ้กัน เขาไม่ได้โศกเศร้าที่จะเสียอิสรภาพใด ๆ อีกต่อไปแล้ว ในตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าการมีอิสรภาพใด ๆ นั้นมันไม่มีค่าเลย หากเขามีชีวิตอยู่โดยปราศจากคนตรงหน้า

ดั่งเพลิงตกหลุมรักคุณชายอนิละเข้าเต็ม ๆ

คุณชายสองยิ้มทั้งน้ำตาให้กับดั่งเพลิงแล้วปล่อยให้ดั่งเพลิงบรรจงจูบอีกครั้งที่ซอกคอขาว ดั่งเพลิงใช้โอกาสที่โยกร่างกายส่วนล่างเป็นจังหวะเร็ว ๆ ชักแก่นกายเข้าออกจากช่องทางหวานของคุณชายสอง ช่วงชิงจังหวะที่คนใต้ร่างเคลิบเคลิ้มและเริ่มจะปลดปล่อย ดึงสายริบบิ้นที่ผูกอยู่กับคอขาวของคุณชายสองออกด้วยมือเดียว จากนั้นจึงใช้เขี้ยวแหลมที่มีมาแต่เกิดงับลงที่ช่วงคอของคนตัวเล็ก ชายหนุ่มกัดเข้าไปเต็มแรง จนรู้สึกได้ถึงรสชาติและกลิ่นคาวเลือด

“อื้อ! ส.. สองเจ็บ.. ” เจ้าของดวงตากลมเบิกตากว้างทันที คุณชายสองจิกเข้าไปที่แผ่นหลังของดั่งเพลิงเต็มแรงเพราะความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่ว เป็นเรื่องปกติที่การตีตรามักจะจบลงด้วยความเจ็บปวดของกาฬวิฬาร์ เว้นเสียแต่ว่าอันฬาผู้ตีตรานั้นจะทำหน้าที่ได้อย่างดี

หลังจากถูกตีตรา แก่นกายของคุณชายสองก็เริ่มที่จะปลดปล่อยของเหลวออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อเริ่มกลับมาหายใจถี่อีกครั้งดั่งเพลิงก็จับตัวของคุณชายสองให้นอนคว่ำไปกับเตียง ถอดแกนกายขนาดใหญ่ออกจากช่องทางรัก แล้วใส่เข้าไปอีกครั้ง จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มขยับสะโพกถี่ เขาก้มตัวลงทาบกับร่างกายเปลือยเปล่าของคนรักแล้วโลมเลียคราบเลือดของคนตัวบางอย่างรู้สึกผิด ในขณะเดียวกันเขาเองก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันไม่ต่างกัน

“ไม่เป็นไรนะคนเก่ง” ดั่งเพลิงหอมลงที่แก้มใสฟอดใหญ่ กลิ่นของคุณชายสองตอนนี้ไม่ได้มีเพียงกลิ่นดอกสายน้ำผึ้งอีกต่อไปแล้ว

หากแต่ว่าตอนนี้และตลอดไปกลิ่นดอกสายน้ำผึ้งนั้นจะมีกลิ่นพิมเสนเคียงคู่เสมอ

 ดั่งเพลิงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เขาไม่หักห้ามใจตนเองแต่อย่างใด ส่งผลให้แกนกายที่อยู่ภายในของคุณชายสองขยายตัวใหญ่จนคับแน่น ทำเอาคนใต้ร่างร้องฮือในลำคอ จนดั่งเพลิงต้องพรมจูบไปทั่วต้นคอเพื่อปลอบโยน เขากำลังจะน็อทกับคุณชายสองอีกครั้ง และในครั้งนี้เขาจงใจ

“ฮ.. พี่เพลิง!” คุณชายสองร้องระงม ขณะเดียวกันก็จิกหมอนที่อยู่ด้านหน้าด้วยความเจ็บระคนสุข แม้จะไม่ใช่ช่วงฮีท แต่ความสุขของกาฬวิฬาร์ก็คือการได้น็อทกับอันฬา คุณชายสองจิกหมอนแรงจนรอยปะของหมอนฉีกขาด ส่งผลให้ขนเป็ดสีขาวพุ่งกระจุยกระจายไปทั่วเตียง

“พี่รักสองนะ”  ดั่งเพลิงยิ้มบางแล้วจับใบหน้าของคุณชายสองที่นอนคว่ำอยู่ให้หันมาจูบกับตน เขาเม้มปากล่างของคุณชายสองอย่างเพลิดเพลิน แล้วต่างฝ่ายต่างแลกจูบรสหวานให้แก่กันและกัน ไม่นานขนาดแก่นกายของดั่งเพลิงก็กลับไปสู่ขนาดปกติเหมือนเดิม เขาถอนแกนสวาทออกจากช่องทางด้านหลังของคุณชายสอง ดั่งเพลิงรู้สึกตกใจไม่น้อยที่คราวนี้เขาหลั่งมากกว่าปกติ จนน้ำสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนไปทั่วช่องทางหวานของคุณชายสอง และบนเตียง

ชายหนุ่มยกหมอนของตนเองที่ไม่ฉีกขาดขึ้นหนุน แล้วจึงจับร่างของคุณชายสองให้นอนหนุนที่หน้าอกของตนแทน หยิบผ้าห่มผืนหนามาห่มร่างกายเปลือยเปล่าของเขาและภรรยาเอาไว้ โอบไหล่ของคนตัวเล็กราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีหายไป เมื่อลอบมองยังรอยกัดที่คอของอีกฝ่าย ก็นึกภูมิใจเล็ก ๆ ที่รอยที่เขาทำไม่ได้เหวอะหวะจนน่าเกลียด

“สองก็รักพี่เพลิงนะครับ” คุณชายสองพึมพำ เจ้าของดวงตากลมเงยหน้าขึ้นเพื่อหอมแก้มของดั่งเพลิง จากนั้นจึงนอนซุกอกแกร่งของชายหนุ่มดังเดิม ดั่งเพลิงเองก็นึกเอ็นดู เขาส่งอีกฝ่ายเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยการกดจูบที่ศีรษะและลูบที่รอยแผลเป็นย้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ไม่นานเจ้าตัวก็ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน เมื่อเห็นว่าคุณชายสองหลับล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เขาจึงโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้แน่นแล้วจึงผล็อยหลับตามไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ

 

ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ดั่งเพลิงและอนิละเกิดมาคู่กัน

 

******

 

ต่อที่ Dek-D

บทที่ ๑๒ : ความเอ๋ยความรัก #มนต์วิฬาร์

Cut #มนต์วิฬาร์ 
บทที่ ๑๒ : ความเอ๋ยความรัก

 

“เคยดื่มไวน์หรือไม่ครับคุณชาย” ดั่งเพลิงที่ตาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนตามสัญชาตญาณนักล่ากล่าวกับคนในอ้อมกอด แม้จะอุ้มร่างของคุณชายสองเอาไว้แต่ในมือเขาก็ถือขวดไวน์อยู่เช่นกัน

 

ดั่งเพลิงอุ้มคุณชายอนิละจนมาถึงเตียงใหญ่กลางห้อง ไม่ทันที่จะได้หายใจหายคอดี เขาก็กดทับร่างของตัวเองกับคนตัวบางที่อยู่ใต้ร่าง จมูกคมฝังไปแทบทุกจุดบริเวณคอเพื่อตักตวงความหอมหวานของกลิ่นดอกสายน้ำผึ้งอย่างที่เขาอยากทำมานานแสนนาน เพราะดั่งเพลิงไม่ใช่คนที่ระมัดระวังนักเขาจึงใช้ริมฝีปากดูดคลึงต้นคอของคุณชายอนิละไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดรอยไปทั่ว หลังจากทำรอยหนึ่งรอยเขาก็ใช้ลิ้นโลมเลียเพื่อปลอบประโลมอีกฝ่ายให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มแทน

 

“อือ.. ” แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บแต่คุณชายสองก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรกลับปล่อยให้คนข้างบนเป็นคนจัดการเสียหมด ร่างกายที่อดรนทนต่อสภาวะฮีทในตอนนี้หากไม่ได้รับการเติมเต็มคงแหลกเป็นผุยผง

 

ในขณะที่ดั่งเพลิงมัวเมาอยู่กับซอกคอแต่มือทั้งสองก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ตนสวมใส่อย่างชำนาญ เพียงครู่เดียวเขาก็โยนมันทิ้งลงข้างเตียง เขาไม่ได้ถอดกางเกงของตนออกทันทีแม้ว่าแก่นกายของตนจะลุกชันและทำให้เขาอึดอัดมากเพียงใด

 

มือหนาค่อย ๆ รูดผ้าห่มที่ห่อกายคนตัวบางออก เผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่าของคุณชายอนิละ ดั่งเพลิงเอื้อมมือไปหยิบขวดไวน์ที่เปิดแล้วของตนแล้วยกขึ้นดื่มขณะสำรวจรูปร่างของคนตัวเล็ก เขาไม่แน่ใจนักว่าหลังหมดช่วงฮีทคุณชายสองจะจำอะไรได้หรือไม่ แต่เมื่อมองไปยังดวงตาสีฟ้าแสนซนที่ตอนนี้กำลังมองร่างกายของเขาอยู่หัวสมองของดั่งเพลิงก็ขาวโพลนไปหมด

 

ชายหนุ่มประคองใบหน้าของคนที่อยู่ใต้ร่างให้เงยขึ้นจากนั้นจึงจับขวดไวน์กรอกปากคุณชายสองให้ดื่มมัน คนตัวเล็กรู้สึกตกใจจนเกือบจะสำลัก ไม่ทันไรดั่งเพลิงก็ก้มตัวลงมาประกบปากแล้วลิ้มรสไวน์องุ่นจากปากของคุณชายสองแทน ลิ้นอุ่นของดั่งเพลิงสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่าย หยอกเย้ากับลิ้นของคุณชายสอง หวังไว้ในใจว่าน้ำเมาสีแดงสดจะทำให้ทั้งตนและอีกคนมัวเมาจนไร้สติ ไม่ทันไรคราบไวน์สีแดงสดกระจายไปทั่วผ้าปูที่นอนและผ้าห่มสีขาวสะอาดแต่ทั้งสองคนก็หาได้สนใจไม่

 

ดวงตาคู่สวยกำลังตกอยู่ในภวังค์จากทั้งสภาวะร่างกายที่ไม่ปกติ รสหวานระคนขมกลิ่นองุ่นส่งผ่านไปทั่วปลายลิ้น ร่างกายอันไม่รักดีของคุณชายสองนั้นถูไถสะโพกไปกับที่นอนใต้ร่าง คนด้านบนลอบสังเกตเห็นจึงใช้มือหนาลูบไล้ไปตามต้นขาอ่อนของคนตัวเล็กแล้วเอ่ยถาม

 

“ต้องการอะไรบอกได้ไหม” ดั่งเพลิงกระซิบลงข้างหูแล้วจุมพิตลงที่หน้าผากของคนใต้ร่าง

 

“อื้อ สองอยากให้เข้ามา..” คนตัวเล็กไม่ใช่ตัวของตัวเองอีกต่อไป คุณชายสองค่อย ๆ อ้าขาของตนออกแล้วใช้มือเรียวลูบไล้ไปยังช่องทางหวานที่เปียกแฉะไปทั่วเพราะผลจากการฮีทที่ร่างกายกาฬวิฬาร์จะหลั่งน้ำสีขาวหนืดออกมาจำนวนมาก คุณชายอนิละกำลังถูกควบคุมจากสัญชาตญาณ

 

สัญชาตญาณอันน่าขัน

 

“เด็กดี นอนคว่ำให้พี่หน่อยซีครับ ประเดี๋ยวจะตบรางวัล” ดั่งเพลิงกล่าวเสียงเบา เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างพลิกตัวนอนคว่ำลงอย่างว่าง่ายเขาก็ยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขณะนี้ตนได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ ทั้งคำว่ารักที่ออกมาจากปากเพราะร่างกายติดฮีทหรือการกระทำแสนว่าง่ายผิดวิสัยของคนใต้ร่างทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคุณชายอนิละ เทววงศ์ที่แสนหัวรั้นคนนั้น

 

คนที่เขาหลงใหลตั้งแต่แรกเจอ

 

คุณชายสองนอนราบลงไปกับพื้นเตียง เมื่อดั่งเพลิงใช้มือลูบไล้วนที่บริเวณสะโพกจนมาถึงช่องทางหวาน เจ้าแมวน้อยก็กระดกสะโพกรับอย่างเอาใจทันที จากนั้นดั่งเพลิงจึงใช้นิ้วเรียวของตนเข้าไปสำรวจยังช่องทางของคุณชายสอง

 

“อ.. อื้อ เอาเข้ามาได้แล้ว” คุณชายสองเริ่มกระวนกระวายและร้อนรน ความต้องการมันมีมากเสียเหลือเกินจนต้องเอ่ยปากอย่างไม่กระดาก ช่องทางหวานตอดรัดนิ้วมือเรียวของดั่งเพลิง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าคนตัวบางเริ่มจะไม่ไหวและมีความต้องการมากเพียงใด

 

“ใจร้อนเสียจริง” ดั่งเพลิงหัวเราะหึแล้วแนบตัวลงทาบกับคุณชายสอง มือข้างซ้ายปลดเปลื้องเข็มขัดของตนแล้วจึงรูดกางเกงและกางเกงชั้นในของตนออก ปรากฏแก่นกายแข็งขืนของชายหนุ่มแล้วจึงถอนมือข้างขวาที่หยอกล้ออยู่ทางด้านหลังของคนตัวบางออก เปลี่ยนไปจับสะโพกของอีกฝ่ายแทน เมื่อเห็นว่าได้ทีแล้วชายหนุ่มจึงจับแก่นกายของตนค่อย ๆ สอดเข้าไปยังช่องทางของคุณชายสองอย่างระมัดระวัง

 

“อื้อ!” เพียงแค่ดั่งเพลิงส่งปลายบวมเป่งเข้ามาทักทาย คนตัวบางร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดระคนสุข ในที่สุดเจ้าของดวงตาฟ้าก็ได้ครอบครองสิ่งที่อยากได้และกำลังจะถูกเติมเต็ม

 

“แบบนี้ชอบหรือไม่ครับ” ดั่งเพลิงเดาะลิ้นแล้วถามคุณชายสอง จากนั้นจึงกระแทกลำตัวเข้ากับสะโพกกลมมนที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ออมแรง แม้แก่นกายขนาดใหญ่ยังคงเชื่อมอยู่กับช่องทางแคบ แต่วิถีชายหนุ่มผู้มากประสบการณ์อย่างดั่งเพลิงก็อดไม่ได้ที่จะใช้มือบีบนวดหยอกเย้ากับยอดอกสีหวานชวนฝันของคุณชายสอง ขณะที่อีกมือที่ว่างก็ใช้มันไปกับปรนเปรอกับส่วนกึ่งกลางลำตัวที่ปริ่มน้ำเพื่อเร่งเร้าอารมณ์ให้กับอีกฝ่ายเช่นกัน

 

“อื้อ ช.. ชอบ..” เจ้าของใบหน้าเล็กเผยอปากครางจากความเสียวซ่านและสุขสมจากการกระตุ้นจากทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง ขาเรียวสั่นระริกเพราะแรกกระแทกที่รุนแรง

 

“อืม..” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดในลำคอแล้วจับตัวคนใต้ร่างให้นอนหงายทั้งที่แก่นกายของตนยังถูกฝากเอาไว้กับร่างของคุณชายอนิละ เขายกขาเรียวข้างขวาของคนตัวเล็กขึ้นมาพาดกับบ่าเพื่อให้ทำอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายขึ้น

 

อ๊ะ.. อา.. เมื่อไรจะติด” คนใต้ร่างถูไถแล้วบดช่วงล่างของตนกับดั่งเพลิงเพื่อเว้าวอนในสิ่งที่อยากได้ ขาข้างขวาที่ว่างอยู่ก็เกี่ยวตะวัดรัดเข้ากับลำตัวของชายหนุ่ม

 

“มาจบมันโดยเร็วเถิดนะครับ” ดั่งเพลิงกล่าวแล้วกระแทกลำตัวของตนครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วใช้มือหนารูดแก่นกลางลำตัวของคุณชายสองขึ้นลง ไม่นานคนตัวบางก็ปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นออกมาจนเกือบหมด ดั่งเพลิงเองไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มไปกับการกระทำในครั้งนี้เขาจึงต้องการที่จะให้มันจบเร็วที่สุด เพื่อที่จะทำให้คุณชายสองหายจากอาการฮีทและกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ใช่คุณชายสองตาฟ้าที่ตนไม่รู้จักคนนี้ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภายในที่ตอดรัดแน่นของคุณชายก็ทำให้เขาเองสุขสมเช่นเดียวกัน

 

“อื้อ น.. นายเพลิง..” เสียงสั่นดังมาจากคนใต้ร่าง ดั่งเพลิงได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้าของตนไปจุมพิตกับริมฝีปากชมพูของคนตัวเล็ก สอดแทรกลิ้นอุ่นเข้าไปในโพลงปากอีกครั้งและอีกครั้ง

 

แต่ทว่าเมื่อลืมตาเขากลับรู้สึกตะลึงงันไปชั่วครู่เมื่อเห็นว่าขณะนี้คุณชายสองไม่ได้มีดวงตาสีฟ้าสดแต่อย่างใด..

 

“สอง.. หายแล้วหรือ..”

 

“ท.. ทำไม..” คนตัวเล็กที่เหมือนเพิ่งได้สติมาจากการฮีทแล้วดวงตาจึงกลับไปเป็นสีน้ำตาลเข้มอย่างเดิม คุณชายสองตกใจจนสติแทบหลุดเมื่อรู้ว่าขณะนี้ตนกับดั่งเพลิงกำลังทำอะไรกันอยู่ เจ้าของดวงตาคู่สวยมองไปยังผู้กระทำอย่างไม่อยากเชื่อ

 

“อ่า.. ชิบเอ๊ย..” ดั่งเพลิงถึงกับสบถออกมาเพราะจู่ ๆ แก่นกายของเขาที่ฝังอยู่ภายในช่องทางหวานของคุณชายสองก็ขยายตัวออกโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

เขารู้ตัวว่าขณะนี้เขาพลาดพลั้งเอาเสียแล้วที่เกิดน็อทกับคุณชายสอง และนี่ก็เป็นน็อทครั้งแรกที่เขาปล่อยให้มันเกิดขึ้น ชายหนุ่มไม่รู้จะโทษอะไรนอกจากตัวเองที่พ่ายแพ้ให้กับดวงตาสีน้ำตาลเข้มและใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อจนน่าแกล้งให้ร้องไห้วันละหลายหนนั่น

 

“สองกลัว..” คนตัวเล็กเริ่มสะอื้น น้ำในตาเริ่มไหลรินเป็นสาย

 

“ชู่ว.. ไม่กลัวนะครับ” ดั่งเพลิงที่ตั้งสติได้รีบปลอบโยนคุณชายสองทันที เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดคุณชายสองจึงหายอาการฮีทเสียดื้อ ๆ แต่ทว่าในตอนนี้เพราะแก่นกายของดั่งเพลิงกำลังขยายอยู่ในตัวของคุณชายสองอยู่จึงทำให้เขาถอนมันออกมาไม่ได้ เมื่อเป็นดังนั้นจากความรุนแรงกลายเป็นความอ่อนโยน

 

“ฮ.. อือ” คุณชายสองเริ่มจิกเล็บลงกับไหล่แกร่งของคนข้างบน ขาทั้งสองข้างเองก็ตวัดรัดลำตัวดั่งเพลิงแน่นจากความเจ็บปวดจากภายใน ดวงตาคู่สวยปรือไปด้วยน้ำตา แต่ทว่าดั่งเพลิงยิ่งมองเห็นภาพดังกล่าวก็ยิ่งสติแตกเพราะเขารู้ดีกว่าใครว่าเขาชอบคุณชายสองที่เป็นแบบนี้มากที่สุด

 

“พี่ขอโทษ” ดั่งเพลิงกล่าวพลางจูบลงที่กระหม่อมของคนใต้ร่าง

 

“ท.. ทำไมถึงปล่อยให้เป็นแบบนี้ ถ้าเกิดว่า.. ถ้า..” เสียงสั่นของคุณชายสองเริ่มขาดห้วงจากการสะอื้นของคนตัวเล็กที่เป็นกังวลอย่างหนัก

 

“พี่รู้”

 

“…”

 

“สองมีลูกให้พี่นะครับ” ดั่งเพลิงกระซิบกับใบหูขึ้นสีของคนตัวเล็ก ดวงตาแดงก่ำด้วยน้ำตาไม่ต่างกัน เพราะเขารู้ดีว่าต่อจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นและเขาก็พร้อมจะรับผิดชอบและยอมรับมัน

 

คำว่า ลูก จากปากคนที่ไม่เคยวาดฝันว่าจะมี หลุดออกจากปากเพื่อให้อีกคนนั้นสบายใจ

 

“พ.. พี่เพลิง อื้อ!”

 

คนตัวบางครางลากยาวเมื่อรู้สึกได้ว่ามีน้ำเหนอะหนะอยู่ภายในร่างกาย แพขนตาหนานั้นชุ่มไปด้วยน้ำใส ดวงตาหวานรื้นไปด้วยความเจ็บปวดจากทางด้านหลัง ร่างกายอ่อนยวบยาบลงไปนอนหอบกับพื้นที่นอน ดั่งเพลิงที่เหงื่อท่วมตัวก็กัดฟันกรอดคำรามในลำคอเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากปลดปล่อยความต้องการทั้งหมดในช่องทางหวานของคนตัวเล็ก น้ำสีขาวเหนะเลอะกระกรังไปทั่ว

 

เมื่อกระบวนการน็อทเสร็จสิ้น เขาจึงถอนแกนกายออกแล้วก้มลงจูบแก้มและซอกคอที่เป็นรอยของคนตัวเล็กย้ำ ๆ อีกครั้งและอีกครั้ง จนคุณชายสองที่เหนื่อยอ่อนก็เคลิบเคลิ้นจนผล็อยหลับไป ทิ้งให้ดั่งเพลิงนั่งเช็ดตัวให้ตนอยู่เงียบ ๆ อย่างรู้สึกผิด

 

กลับไปอ่านต่อ Dek-D

บทบรรยาย ๕ : ดินอุ้มน้ำ #คุณถูกล้อมไว้หมดแล้ว

#cut

                “ช.. ช่วยโลภกับพี่อันได้มั้ย?”

 

                คนตัวใหญ่คลี่ยิ้มกว้างเหมือนหมาตัวใหญ่ที่ได้รางวัลเป็นกระดูกชิ้นโต​ ผืนพนาจู่โจมลูกแมวยังไม่​ทันได้ตั้งตัวด้วยการนั่งลงไปทาบกับคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว เพราะฤทธิ์​ของแอลกอฮอล์​ทำให้เขาประมวลผลได้เพียงว่าเขาต้องทำตามคำขอของคนรักเท่านั้น​

                ผืนพนาประกบริมฝีปากของตนกับสายนทีราวกับสัตว์ป่าที่หิวโหยและปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตัวเองที่ระเกะระกะแล้วโยนมันทิ้งไป สายนทีที่ดูตกใจในตอนแรกก็ให้ความร่วมมือด้วยการประสานแขนขึ้นมาคล้องคอผู้บุกรุกแล้วใช้ลิ้นเกี่ยวตวัดรับการมาเยือนจากสัมผัสอุ่นชื้นของอีกคน เมื่อยามที่ลิ้นหวานของทั้งสองได้สัมผัสกันคนตัวเล็กกว่าก็พลันรู้สึกมึนเมาไปกับรสแอลกอฮอลล์จากปลายลิ้นของคนตัวใหญ่

                ทั้งสองผลัดกันแสดงความรักด้วยการแลกเปลี่ยนความหวานผ่านสัมผัสร้อนในโพรงปากอย่างไม่มีใครยอมใครจนเกิดเป็นเสียงอันน่าอาย ผืนพนาเริ่มย้ายกลับกลับไปจดจ่อกับซอกคอขาวของคนตัวเล็กอีกครั้ง สายนทียอมรับเลยว่ามันรู้สึกดีเหลือเกิน​จนถึงกับหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกับทุกสัมผัสของคนบนร่าง แถมยังเผลอลูบไล้ฝ่ามือเล็กกับศีรษะของผืนพนาด้วยความเผลอไผล​

                ผืนพนาโอบอุ้มสายนทีให้ลุกขึ้นนั่งพลางจูบแก้มอีกคนไปฟอดใหญ่ แล้วจึงค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของสายนทีออกอย่างเร่งรีบ เขาไม่ได้มีความอดทนมากนักเมื่อเห็นผิวขาวสะอาดของคนตรงหน้า เมื่อปลดกระดุมเสื้อของคนตัวเล็กออกจนหมด ผืนพนาก็แทบจะสติแตก ทั้งความรู้สึกหื่นกระหายและขวยเขินมันตีรวนกันไปเสียแทบสิ้นสติ คนตัวหนากลืนน้ำลายอึกใหญ่และครุ่นคิดว่าจะทำยังไงกับลูกแมวตัวนี้ดี จนกระทั่งลูกแมวที่สวมเสื้อเชิ้ตอันแสนรุ่มร่ามนั้นจู่โจมเขาก่อนด้วยการช้อนตามอง แล้วเอียงคอจูบเขาด้วยความโหยหา นั่นจึงทำให้ผืนพนารู้ว่าไม่ใช่แค่เขาที่ต้องการจะ ‘ทำ’ คนเดียว

                “ขึ้นมานั่งบนตักผมได้มั้ยครับ?” ผืนพนากระซิบถามพลางจูบตอบ

                “…”

                แม้ว่าแสงไฟในห้องนั้นแสนจะน้อยนิด แต่ผืนพนาก็เห็นว่าคนตัวเล็กกว่ามีแววตาตื่นตระหนกระคนวูบไหวอย่างเห็นได้ชัด คนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ค่อยๆ เขยิบตัวขึ้นไปนั่งบนตักของคนตัวใหญ่กว่าโดยที่ทั้งสองคนยังคงหันหน้าเข้าหากัน สายนทีเบะปากคว่ำลงเล็กน้อยเหมือนกับลูกแมวที่กำลังจะงอแงและต้องการการเอาใจใส่

                “…”

                “เชื่อใจผมมั้ย?”

                “อือ.. รู้มั้ยว่าพี่อันรัก.. มากนะ”

                “รู้ครับ”

                ผืนพนาบรรจงจูบลงไปยังหัวไหล่ขาวของคนตัวเล็กที่โผล่พ้นจากเสื้อเชิ้ตตัวบางบนตัวของอีกฝ่าย เขาคลอเคลียสูดดมกลิ่นสบู่อ่อนๆ​ จากซอกคอของสายนทีอีกครั้งเพื่อให้คนที่นั่งอยู่เหนือกว่าโอนอ่อนไปตามความต้องการ คนตัวใหญ่ใช้มือหนาโอบลำตัวของคนตัวเล็กให้ชิดติดกับร่างกาย​ของเขาเอง ร่างกายท่อนบนส่วนที่เปลือยเปล่าของทั้งคู่จึงแนบชิดกันจนสามารถรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่าย

                เจ้าของไหล่กว้างเน้นโลมเลียที่ริมฝีปาก​ จนคนตัวเล็กเคลิบเคลิ้มไปกับรสหวาน แล้วจึงค่อยๆ รูดกางเกงนอนและกางเกงชั้นในของสายนทีออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ต่อหน้าเขาเหลือเพียงร่างขาวเปลือยเปล่าในเสื้อชุดนอนส่วนบนเท่านั้น​ ผืนพนาลอบมองไปยังจุดอ่อนไหวที่ลุกชันเต็มที่ของเจ้าลูกแมวที่เขาหลงไหล เขาค่อยๆ จับขาของคนด้านบนแยกออกให้ชันเข่าอยู่กับเตียงโดยมีเขานั่งใต้ร่าง สายนทีรู้สึกอับอายจนถึงกับกอดผืนพนาเอาไว้แน่น

                “โอบแดนไว้นะครับ”

                “อื้อ”

                “ทนเจ็บหน่อยนะ”

                “อ๊ะ.. ”

                ผืนพนาเทโลชั่นจนปริมาณล้นมือลวกๆ แล้วค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปยังช่องทางหวานด้านหลังของสายนทีอย่างใจเย็น ร่างเล็กกอดเขาแน่นเข้าไปอีก ไหล่ของคนตัวบางสั่นเทิ้มเต็มไปด้วยความกลัวและความรู้สึกประหลาดที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย

                คนตัวใหญ่ใช้นิ้วเรียวสำรวจบริเวณร่างกายภายในของลูกแมวที่โอบกอดเขาอยู่ เมื่อเห็นว่าได้ทีพอจะเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปได้อีกเขาจึงสอดนิ้วที่สองเพิ่มเข้าไปโดยไม่ถามไถ่เจ้าของร่างเลยสักนิด

                “อ๊ะ! เจ็บ..”

                “ชู่ว.. จูบแดนเร็วครับคนดี”

                “อือ..”

                สายนทีประกบริมฝีปากกับผืนพนาใต้ร่างอย่างว่าง่าย รู้เพียงแค่ว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อลืมความเจ็บปวดจากทางด้านหลัง สายนทีไล่ลิ้นตวัดหาอวัยวะเดียวกันของอีกฝ่ายให้วุ่นแล้วร้องอื้ออึงในลำคอด้วยความเจ็บไปพลาง ผืนพนาเล็มปากล่างของอีกฝ่ายอย่างรู้งาน จากนั้นคุณเจ้าของห้องก็ใช้มือที่ว่างค่อยๆ ลูบกับแก่นกายอ่อนไหวของอีกฝ่ายโดยที่สายนทีนั้นไม่ทันได้ตั้งตัวจนคนตัวเล็กอดที่จะร้องครางออกมาไม่ได้

                “แดน ย.. อย่าจับ..”

                คนตัวเล็กกว่าครางเสียงกระเส่าด้วยความเสียวซ่านไปทั้งตัวจนขนลุกชันไปหมด ผืนพนาทำเกินไปที่จู่โจมทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบนี้ สติของคนตัวเล็กแทบจะขาดผึงเมื่อผืนพนาใช้มือรูดส่วนอ่อนไหวของเขาขึ้นลงเพื่อปลุกอารมณ์ เพราะมัวพะวงกับด้านหน้า เจ้าตัวจึงไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นสอดนิ้วที่สามเข้ามาแล้วตรงช่องทางหวานก็ตาม

                “อ๊ะ! แดน อื้อ!”

                “ชอบตรงนี้เหรอครับ?”

                ผืนพนาคว้านปลายนิ้วของตัวเองเพื่อสำรวจในตัวคนที่อยู่ด้านบนอีกครั้งเพราะเหมือนว่าเขาจะค้นพบจุดที่ทำให้ลูกแมวของเขารู้สึกดีได้แล้ว สายนทีถึงกับโก่งสะโพกขึ้นรับทันทีที่ผืนพนากดเน้นย้ำยังจุดอ่อนไหวทางด้านหลังด้วยความรู้สึกดีอย่างประหลาดจนเขาบดเบียดร่างกายเข้ากับแผ่นอกของคนตัวใหญ่ไปหลายที รวมทั้งจุดอ่อนไหวของคนตัวเล็กเช่นกันที่เสียดสีกับหน้าท้องของคนตัวใหญ่เป็นการประท้วง

                “อ๊ะ! พี่อันจะไม่ไหวแล้ว”

                “อย่าขี้โกงเชียวครับ”

                ผืนพนาไม่รอช้าปลดเข็มขัดของตนเองแล้วรูดซิปกางเกงของตนลงจนดูหมิ่นเหม่กึ่งใส่กึ่งถอดและจับแก่นกายใหญ่ของตนจดจ่ออยู่กับช่องทางหวานของคนที่อยู่บนร่างของเขา ผืนพนาค่อยๆ จับบั้นท้ายนิ่มของสายนทีลงมาเชื่อมต่อกับจุดแข็งขืนของตนเอง

                “ฮึ!”

                “อ.. อันเจ็บรึเปล่าครับ?” ผืนพนากัดฟันแน่นเพราะความบีบรัดจากช่องทางของคนตัวเล็ก

                สายนทีส่ายหัวเป็นพัลวันแม้ว่าความจริงจะรู้สึกปวดมากก็ตาม ขนาดจริงที่เพิ่งเข้ามานั้นมีขนาดใหญ่กว่านิ้วทั้งสามเมื่อครู่มากโข​ จนคนตัวเล็กถึงกับพูดไม่ออก​ ​นัยด์ตากลมใสชื้นไปด้วยน้ำตาเล็กน้อยเพราะความชาจากบั้นท้ายคนตัวเล็กกว่าจึงก้มหน้าแนบไปกับไหล่กว้างของผืนพนา

                “อะ.. อา..”

                แต่แล้วความเจ็บปวดก็ถูกแทนด้วยความรู้สึกประหลาด​ หัวสมองของสายนทีขาวโพลนไปหมดจนไม่รู้ตัวว่าร่างกายของตนกำลังตอบรับคนข้างใต้ด้วยการกระเพื่อมอกแล้วโยกตัวบดเบียดสะโพกขึ้นลงบนตัวของผืนพนาเพื่อช่วยให้อีกฝ่ายมีความสุข

                “อ.. อัน..”

                “เข้ามา..”

                สายนทีอ้าขาของตนให้กว้างกว่าเดิมแล้วเกร็งตัวกดบั้นท้ายลงบนกลางลำตัวของผืนพนาให้ลึกขึ้นอีกนิด เมื่อเจ้าตัวสัมผัสได้ถึงจุดที่รู้สึกดีที่อยู่ภายในของตัวเองในตอนที่ส่วนนั้นของผืนพนาเข้ามารุกล้ำ รู้เพียงแค่ว่าหากไม่เดินเกมต่อมันจะต้องจบ สายนทีรู้เพียงเท่านี้

                “อันครับ..”

                “อือ.. อยาก.. ลึกกว่านี้”

                “อืม.. ว่าไงนะครับ?”

                “แดนครับ พี่อันทำไม่ไหว ช่วยพี่อันนะ”

                ผืนพนาใจแทบหล่นวูบเมื่อสายนทีร้องขอความช่วยเหลือจากเขา ทั้งท่าทางที่แสนยั่วยวน เสียงหอบกระเส่า ดวงตาใสที่รื้นน้ำ ไหนจะปากที่จะเผยออย่างไม่ตั้งใจเพราะความเสียวซ่านนั่นอีก คิดแล้วผืนพนาก็นึกฉงนใจว่าคนด้านบนไม่รู้เลยหรือไงว่าทำแบบนี้มันคือการยั่วกันชัดๆ

                อย่าไปทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นนะครับคุณหนู​ม่านฟ้า

                คนตัวหนาบรรจงช้อนร่างบางให้นอนราบลงไปกับเตียงอย่างนุ่มนวลทั้งที่ร่างกายของทั้งสองยังเชื่อมต่อกันอยู่ แล้วตนจึงค่อยจัดท่าทางเพื่อสานต่อจากส่วนที่เหลือ เขาโน้มตัวแนบลงไปจูบปากบางของเจ้าลูกแมวขี้ยั่วอย่างต้องการเอาอกเอาใจ ผืนพนาสาบานว่าถ้าลูกแมวตัวนี้อยากได้​ ไม่ว่าอะไรเขาก็จะหามาให้

                เมื่อเห็นว่าผืนพนาทำตามคำร้องขอสายนทีเองก็ลูบไล้ที่หน้าท้องเป็นลอนของอีกฝ่ายอย่างพอใจแล้วส่งยิ้มให้กับผู้ควบคุมเกมว่าตนยังไหวอยู่

                “ถ้าเจ็บกัดไหล่แดนเลยนะครับ

                “ไม่เอา เดี๋ยวแดนจะ.. อือ.. เจ็บ”

                “อันจะได้ไม่เจ็บคนเดียวไงครับ”

                “อือ..  มันเสีㅡ”

                ผืนพนาลูบไล้คางของคนที่อยู่ใต้ร่างแล้วเริ่มขยับตัวเข้าออกถี่เพื่อเร่งเร้าอารมณ์ของตนให้สู่จุดสูงสุดก่อนที่สายนทีจะเจ็บไปมากกว่านี้และเพื่อให้ทั้งคู่ปลดปล่อยในเวลาไล่เลี่ยกัน สายนทีเมื่อโดนแรงกระแทกจากเอวสอบก็โอบกอดร่างของผืนพนาที่ตอนนี้เป็นฝ่ายอยู่ด้านบนไว้แน่น ผืนพนาบดเบียดรูดส่วนอ่อนไหวของตนเข้าออกกับร่างกายของคนตัวเล็กเป็นระยะโดยที่ริมฝีปากของเขาเองก็จดจ่ออยู่กับการโลมเลียยอดอกสีสวยของอีกฝ่ายแล้วไล่ลิ้นขึ้นไปถึงคอขาว

                “อ๊ะ! แดน มันจะ..ไม่ไหว..”

                “แดนก็เหมือนกันครับ”

                “อึก.. แดน!”

“อืม..”

                สายนทีฝังเขี้ยวลงไปที่ไหล่แกร่งของผืนพนาทันทีที่ถึงจุดปลดปล่อย ทั้งสองหลับตาลงด้วยความผ่อนคลายและรู้สึกดี คนตัวใหญ่เคลิบเคลิ้มจนลืมความเจ็บปวดที่ไหล่ไปเลยด้วยซ้ำ เขากัดฟันกรอดในลำคอพร้อมๆ กับขมวดคิ้วเพราะความสุขในการปลดปล่อย

                 เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ผืนพนาก็ถอนแก่นกายตัวเองออกมาจากช่องทางหวานของคนตัวเล็กแล้วลูบไล้หน้าของคนที่นอนหอบอยู่ใต้ร่างอย่างอ่อนโยน คนตัวใหญ่ไล่จูบตามใบหน้าเล็กเป็นการไถ่ขอโทษที่เผลอปลดปล่อยไปในร่างกายของอีกคนและทำคนตัวเล็กระบมไปทั้งตัวแบบนี้

                “เจ็บมากมั้ยครับคนเก่ง?”

                “…”

                ไม่มีคำตอบจากลูกแมวของผืนพนาที่นอนคว่ำไปกับเตียงกว้างแล้วแนบใบหน้าเรียวลงไปกับกองหมอนด้วยความเมื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อครู่

                “ขอโทษนะครับ”

                ผืนพนาเห็นดังนั้นเลยทิ้งตังลงไปนอนข้างๆ กับอีกคนแล้วเอื้อมแขนไปโอบกอดสายนทีให้มานอนซบยังแผ่นอกของตนเอง เขาค่อยๆ ลูบหลังเปลือยเปล่าของคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกผิด

                “แต่พี่อัน กะ..ก็รู้สึกดี แล้วแดน..”

                “ครับ?”

                “แดนรู้สึกดีมั้ย?”

                “ดีมากเลยล่ะครับ”

                “ค่อยยังชั่วเนอะ..”

                สายนทีพยายามหลบตาเขา​ หากแต่ว่าคนตัวใหญ่ก็ลากมือไปสัมผัสปลายคางอีกคนให้เงยหน้าขึ้นช้อนมอง​ สายนทีกำลังซ่อนน้ำตาที่ไหลไปกับพวงแก้มใสแล้วยิ้มอย่างมีความสุขให้ เพราะสิ่งที่อยู่ภายในใจของสายนทีมาโดยตลอดสิ่งหนึ่งนั่นคือความกลัวว่าวันใดหากผืนพนาได้สัมผัสกับตัวตนของเขาก็คงอาจจะเปลี่ยนใจ และสำหรับคนร่างเล็กนั้นนอกจากครอบครัวแล้วการเสียผืนพนาไปคือเรื่องที่เขาเองจะยอมให้เกิดไม่ได้

                “อัน.. ร้องไห้ทำไมครับ? เจ็บมากเหรอ?”

                “เปล่า พี่อันนึกว่า.. นึกว่าแดนจะรังเกียจ”

                “ผมรักอันจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”

                ผู้หมวดยิ้มเอ็นพลางลูบหัวเจ้าลูกแมวเหมียวของเขาก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากลงไปด้วยความรักใคร่แล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม

                “แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึง..”

                “แดนกลัวพี่อันเจ็บ”

                “พี่อันไม่เจ็บ พี่อันก็รักแดนนะ”

                ลูกแมวในอ้อมกอดของผืนพนาทำปากยู่ก่อนจะขึ้นไปนอนทับร่างของอีกคนด้วยความต้องการที่จะออดอ้อนคนตัวหนา ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันที่การได้อ้อนหมวดผืนพนากลายมาเป็นนิสัยหลักของสายนทีไปเสียแล้ว​

                เพราะความร่างใหญ่ของผืนพนาเขาจึงไม่มีปัญหาเลยหากลูกแมวจะขึ้นมานอนบนตัวเขา​ ผืนพนาสอดนิ้วเรียวเข้าไปในช่องทางหวานที่เปียกชื้นของคนที่อยู่บนตัวอีกครั้งอย่างระมัดระวัง​ แต่กระนั้นคนตัวเล็กกว่าก็ยังตกใจ

                “อ๊ะ! เมื่อกี๊ยังไม่พอเหรอ”

                “เปล่าครับ​ แดนแค่จะเอาน้ำออกให้​ แฉะหมดแล้ว”

                “…”

                “ทะลึ่งนะเราอ่ะ”

“ใครกันแน่.. ”

                คนตัวเล็กกว่ามุบมิบปากไม่พอใจแล้วก้มหน้างุดไปกับแผ่นอกของผืนพนาเพื่อให้อีกคนช่วยให้เขาสบายตัว​ผืนพนาเห็นแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจที่คนตัวเล็กกว่าเงียบลงได้ แต่จริงๆ ก็อาจเป็นเพราะความเหนื่อยอ่อนเสียมากกว่า หลังจากที่เขาใช้ปลายนิ้วทำความสะอาดเจ้าลูกแมวเสร็จแล้วเขาจึงใช้จมูกหอมแนบลงไปยังกลุ่มผมสีเข้มของคนที่นอนซบเขาอยู่ด้วยความเอ็นดู

.

.

ต่อที่เด็กดี

บทที่ 31 : สุริยันเคียงจันทรา #รักเกิดที่เยาวราช

#cut                

                นี่ไม่ใช่การมีเซ็กส์ครั้งแรกของแดเนียลซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องปกติของคนหัวนอกแต่ก็อาจเป็นเรื่องไม่น่ายอมรับสำหรับคนหัวโบราณ ชายหนุ่มสาบานได้ว่าต่อให้จะผ่านการร่วมรักมาแล้วหลายครั้งแต่คงไม่มีครั้งไหนที่เขาตื่นเต้นเท่าครั้งนี้เพราะครั้งนี้มันมาจากความรัก ความรักที่เขาคิดว่าเขาสามารถมอบทุกอย่างและพร้อมสยบให้กับคนตรงหน้าได้

                แดเนียลค่อยๆ ไล่พรมจูบคนที่อยู่ใต้ร่างอย่างใจเย็น จูบหนึ่งครั้งที่เปลือกตาสวยเพื่อแสดงความรัก ไล่ลงมาจูบหนึ่งครั้งที่ปากหวานหอมเพื่อตักตวงความหวาน จูบอีกหนึ่งครั้งที่พวงแก้มกลมด้วยความเอ็นดูและเริ่มจูบเล้าโลมตรงซอกคอขาวที่เขาปรารถนามาเป็นเวลานานเพื่อแสดงความต้องการ

                “อ.. อือ..”  คนตัวบางก่นเสียงในลำคอแล้วให้ความร่วมมือด้วยการเอาแขนทั้งสองข้างโอบคล้องคอขายหนุ่มเจ้าของผมสีอ่อนเอาไว้ไม่ให้มันระเกะระกะ

                “ใจเย็นนะครับ” ชายหนุ่มพรมจูบที่คอพลางกระซิบ แดเนียลใช้มือขวาวนลูบไปที่แผ่นหลังใต้ผ้าร่มของอีกฝ่ายเพื่อปลอบประโลม ก่อนที่จะค่อยๆ ไล้มือลงไปปลดเปลื้องกางเกงผ้าฝ้ายของอีกคนที่อยู่ใต้ร่างจนเหลือเพียงแค่ชั้นในขาสั้น เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะเขินไม่น้อยเพราะตอนนี้อาอ๋งเอามือทั้งสองยกขึ้นมาปิดหน้าแทน

                “จูบแดนหน่อยเร็วครับ” แดเนียลเอาใบหน้าแนบไปบนฝ่ามือของอีกคนเพื่ออ้อนวอนขอจูบอีกครั้ง และได้ผลเมื่ออีกคนยกมือออกแล้วเผยอปาก รอรับการหยอกเย้าที่ริมฝีปากบางของอีกคนอีกครั้ง แดเนียลค่อยๆ ดูดคลึงริมฝีปากล่างเรียกร้องความสนใจเพื่อไม่ให้ลูกแมวของเขาตื่นกลัว

                ชายหนุ่มใช้ช่วงแขนที่ยาวให้เป็นประโยชน์ด้วยการเอื้อมมือไปหยิบเจลหล่อลื่นที่เก็บไว้ข้างเตียงมาใช้ เขาเปิดมันด้วยมือเดียวอย่างง่ายดายแล้วชะโลมมันลงเต็มมือ แดเนียลค่อยๆ ไล้มือที่เต็มไปด้วยของเหลวไปยังตรงสะโพกบางของคนใต้ร่างและใช้นิ้วเบิกช่องทางหวานแม้ว่าจะยังไม่ปลดเปลื้องผ้าชิ้นบางชั้นสุดท้ายออกก็ตาม

                “ฮ.. อึก” ร่างบางสะดุ้งทันทีที่นิ้วเย็นรุกล้ำเข้ามาภายในร่างกายของตนเหมือนกับเป็นสัญชาตญาณที่เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาคนใต้ร่างก็แยกขาทั้งสองออกจากกันโดยไม่รู้ตัว

                “เจ็บมั้ยครับ” เขากระซิบถามเมื่อคนตรงหน้าข่มตาหลับลงทันที่เขาเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสามแล้วเข้าไปดุนดันในช่องทางร้อนผ่าว คนตัวบางรู้สึกปวดร้าวระคนสุขจนกัดฟันแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้มีเสียงร้องอันน่าอายออกมา

                “อ๊ะ.. อ๊า” อ๋งร้องขึ้นเมื่อเพราะนิ้วของแดเนียลที่เข้าไปสำรวจภายในตัวของเขาเพื่อเตรียมความพร้อมนั้นจะโดนจุดอ่อนไหวภายในตัวของตน​ เจ้าของผมสีอ่อนดูจะชอบใจเลยถอนนิ้วมือออกโดยฉับพลันจนเกิดเสียงครางกระเส่าของอีกคน

                “ถ้าเจ็บบอกแดนนะ แดนกลัวตัวเล็กจะเจ็บนะครับ” ร่างเล็กหรี่ตามองแล้วส่ายหัวช้าๆ เป็นคำตอบ เมื่อได้รับคำตอบคนตัวหนาก็เหมือนจะได้ใจ แดเนียลหัวเราะในลำคอแล้วค่อยๆ รูดชั้นในส่วนล่างของคนตัวเล็กกว่าออกไป

                “อ.. อย่ามองนะ” คนข้างใต้แก้มขึ้นสีระเรื่อเมื่อแดเนียลสำรวจร่างกายของเขาและโลมเล็มมันด้วยสายตาคมรวมถึงกับมองไปยังแก่นกายอ่อนไหวที่เมื่อครู่ถูกซ่อนอยู่แต่บัดนี้มันถูกปลดเปลื้องจนเป็นอิสระ

                “ไม่เห็นเป็นไรเลย ของแดนก็เป็นเหมือนกัน” สำหรับชายหนุ่มคงไม่มีคำว่าอาย เขายิ้มกว้างเป็นเชิงปลอบใจคนตัวบางกว่าแล้วค่อยๆ หยิบถุงยางในกระเป๋ากางเกงออกมา ดึงยีนส์ตัวหนาให้หมิ่นเหม่ลงแล้วใช้ปากฉีกซองอย่างลวกๆ ก่อนที่จะนำมันมาสวมให้กับแก่นกายใหญ่ของตัวเองภายในไม่ถึงนาที

                “…” คนตัวบางถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นขนาดของอีกคน จะเปลี่ยนใจตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วถ้าจะเจ็บมันก็คงต้องเจ็บ จะทำยังไงได้ ตอนนี้อารมณ์ของเขาเองมันก็ควบคุมจิตใจจนหมดอยู่แล้ว

                “อ้าขาอีกหน่อยนะครับ” คนตัวบางทำตามอย่างว่าง่ายไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกันที่แดเนียลมีอิทธิพลกับเขาเสียขนาดนี้

                “อ๊ะ! ด.. แดน” ลูกแมวของแดเนียลร้องเสียงหลงทันทีที่แดเนียลกระชับเอวบางของอีกคนให้เข้าใกล้ส่วนปลายที่เขาใช้มืออีกข้างกอบกุมอยู่ ก่อนที่จะค่อยๆ บรรจงสอดใส่เข้าช่องทางหวานอย่างช้าๆ

                “เจ็บมั้ยครับ”

                “อือ”

                “โอเคครับ หยุดก่อนดีกว่า” ชายหนุ่มเจ้าของผมสีอ่อนหยุดยั้งการสอดใส่ชั่วคราวเพื่อให้อีกคนได้เริ่มปรับสภาพร่างกาย แม้ว่าจะยังเข้าไปได้แค่เพียงส่วนปลายและยังไม่เริ่มกระแทกทั้นเขาก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเมื่อส่วนกลางลำตัวของเขาถูกตอดรัดด้วยความคับแคบของช่องทางหวานของอีกคน

                “อ่า.. มะ.. ไม่เป็นไร เข้ามาอีก.. ก็ได้” คนตัวบางหรี่ตามอง แม้ว่าในแววตาใสจะชื้นไปด้วยน้ำตาที่บ่งบอกความรู้สึกว่าเจ็บปวดแต่มุมปากคนตัวบางก็ยกยิ้มขึ้น พลางยกขาไปพาดตรงไหล่คนตรงหน้าอย่างหยั่งเชิงเป็นเชิงอนุญาตว่าให้เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของตนเองได้อีก มากกว่านี้

                “รู้ตัวมั้ยครับว่าตัวเองเซ็กซี่” แดเนียลทิ้งตัวลงนอนแนบตัวให้ชิดติดกับคนใต้ร่างแล้วซุกไซร้ลงไปที่ซอกคอขาว ดูดคลึงด้วยความใคร่จนเป็นรอยแดงไปเสียทั่ว

                “อือ ละ ลื้อรู้ตัวมั้ยว่าตัวเองหื่นมา— อ๊ะ!” คนตัวบางโอบกอดร่างหนาของอีกคนแล้วข่มตาหลับทันทีที่แดเนียลใช้จังหวะทีเผลอ สอดแทรกส่วนกลางตัวเข้าไปในช่องทางรักเสียเต็มแรง ร่างบางหายใจถี่ราวกับจะขาดอากาศจะหายใจ จนเผลอจิกหลังชายหนุ่มอีกคนไปเต็มๆ

                “แดนรักอาอ๋งนะครับ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ขยับตัวเข้าออกอย่างเชื่องช้าไม่เร่งเร้าในตอนแรก พลางบดจูบโลมเล้าไปที่ริมฝีปากของอีกคนเพื่อปลอบโยน สอดแทรกลิ้นหวานทั้งในโพรงปากและแก่นกายด้านล่างในช่องทางแคบที่เร่าร้อนเพื่อแสดงออกถึงความรักและความเป็นเจ้าของ

                “อื้อ… แดน…” คนตัวบางกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบจนลืมความเจ็บปวดด้านล่าง ปล่อยให้คนคุมเกมป็นคนดำเนินการขยับจังหวะเข้าออกจนกว่าจะเติมเต็มอารมณ์ความต้องการของเขาได้

                แดเนียลเริ่มทนไม่ไหวเมื่อช่องทางรักของอาอ๋งตอดรัดแน่นเสียจนเขาต้องการจะปลดปล่อย คนตัวหนาเริ่มเร่งเร้าจังหวะให้เร็วขึ้นและรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับร่างกายของอีกคนที่เริ่มจะทนไม่ไหวเหมือนกันเมื่อแก่นกายใหญ่ของคนข้างบนพบเจอกับจุดอ่อนไหวภายในจนทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว

                “อือ จ.. จะไม่ไหวแล้ว.. อึดอัด”

                “เดี๋ยวแดนช่วยเองนะ” แดเนียลได้ยินดังนั้นจึงใช้มืออีกข้างกอบกุมจุดอ่อนไหวกลางลำตัวของอีกคนที่ปริ่มน้ำรูดขึ้นลงเล็กน้อยเป็นจังหวะเพื่อให้คนข้างล่างได้คลายความอึดอัด​ออกมา

                “อ่ะ.. ด… แดน อา…” เพียงแค่สัมผัสไม่กี่ครั้งจากของอีกคน อ๋งก็จิกลงไปที่ต้นแขนของอีกคนอีกครั้งด้วยความทรมานจากการปรนเปรอด้วยมือของอีกฝ่าย ไม่นานคนตัวบางก็เริ่มปลดปล่อยออกมาเสียจนเลอะเปรอะเปื้อนเสื้อเชิ๊ตของแดเนียลที่ตนเองใส่อยู่รวมทั้งเสื้อผ้าของอีกคนด้วย  

                “อืม..”  แดเนียลกัดฟันกรอดพร้อมทั้งปลดปล่อยตัวเองจนหลั่งออกมาเช่นกัน เขาค่อยๆ ถอนแกนกายของตัวเองออกมา​จากตัวของอีกฝ่าย​อย่างแผ่วเบา

                ชายหนุ่มเงยหน้าไปสบตากับลูกแมวของเขาที่นอนปรือตามองการกระทำเมื่อครู่ด้วยความเหนื่อยอ่อน แดเนียลค่อยๆ หาทิชชู่มาเช็ดตามตัวของอีกคนที่เลอะเปรอะเปื้อนอย่างต้องการเอาอกเอาใจและใคร่ขอโทษ

.

.

​ต่อที่เด็กดี

      


#รักเกิดที่เยาวราช